นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นตั้งเป้าจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 27 ตุลาคม เพื่อยุติภาวะเศรษฐกิจดิ่งเหว หลังตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักจากค่าเงินเยนแข็ง และอาจจำเป็นต้องขึ้นภาษี
นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น (Photo by JIJI PRESS / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 กล่าวว่า ชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นที่จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ตุลาคม กำลังพิจารณายุบสภาและจัดการเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 27 ตุลาคม เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจย่ำแย่อย่างหนักและอาจจำเป็นต้องขึ้นภาษี จึงต้องการคืนอำนาจให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินทิศทางของประเทศ
อิชิบะในฐานะหัวหน้ารัฐบาล เห็นด้วยกับธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะเห็นว่ายังมีช่องทางความเป็นไปได้ที่จะเก็บภาษีจากหน่วยธุรกิจและบริษัทต่างๆได้มากขึ้น
การชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) ซึ่งบริหารประเทศมาอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายทศวรรษเมื่อวันศุกร์ เป็นการแข่งขันระหว่างอิชิบะ และซานาเอะ ทาคาอิจิ รัฐมนตรีความมั่นคงเศรษฐกิจสายอนุรักษนิยม วัย 63 ปี ซึ่งเป็นตัวเต็งลำดับหนึ่งในผลการสำรวจความคิดเห็น
เนื่องจากทาคาอิจิเป็นแฟนตัวยงของนโยบายเศรษฐกิจแบบ "อาเบะโนมิกส์" ของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ซึ่งเน้นอัตราดอกเบี้ยต่ำเป็นพิเศษรวมทั้งการลดหย่อนภาษี ดังนั้นโอกาสที่ทาคาอิจิจะได้รับเลือกเป็นนายกฯคนใหม่จึงส่งผลให้หุ้นปรับตัวสูงขึ้นและเงินเยนอ่อนค่าลงก่อนปิดตลาดในวันศุกร์
ขณะที่อิชิบะ วัย 67 ปี เป็นผู้วิจารณ์อาเบะอย่างรุนแรง และชัยชนะเหนือความคาดหมายของเขาทำให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นจาก 146.50 เยนต่อดอลลาร์เป็น 142 เยน อีกทั้งนักลงทุนยังเทขายหุ้นทันทีที่เปิดตลาดในวันจันทร์ ทำให้หุ้นร่วงลงอย่างหนัก โดยกลุ่มผู้ส่งออกเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด
หลังปิดตลาด ดัชนีนิเคอิร่วงลง 4.8%, โตโยต้าร่วงลง 7.6% และบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Mitsui Fudosan ลดลง 8.7%
อิชิบะยืนยันว่า เขาตั้งใจที่จะจัดการเลือกตั้งกะทันหันในวันที่ 27 ตุลาคม โดยให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลใหม่จะต้องได้รับการตัดสินจากประชาชนโดยเร็วที่สุด
ผู้อาวุโสของพรรคเสรีประชาธิปไตยต่างฝากความหวังไว้ที่อิชิบะซึ่งคลั่งไคล้ด้านกลาโหม เพื่อกระตุ้นความนิยมของพรรคฯที่ลดลงอย่างมากในสมัยนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ เนื่องจากผลกระทบจากเรื่องอื้อฉาว ทั้งกองทุนนอกระบบของพรรคฯและความเดือดดาลประชาชนในเรื่องค่าครองชีพที่พุ่งสูงขึ้น
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อิชิบะให้คำมั่นว่าจะฟื้นฟูความเชื่อมั่นในพรรคฯ หลังจากเกิดเรื่องอื้อฉาวดังกล่าว และจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างประเทศเพื่อนบ้านที่ได้รับผลกระทบจากการกระทำของจีนในช่วงที่ผ่านมา
สื่อรายงานว่า เขากำลังพิจารณาแต่งตั้งคัตสึโนบุ คาโตะ อดีตเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เคยลงสมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯ ให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
เก็น นาคาทานิ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอาวุโส จะกลับมานั่งทำงานในตำแหน่งเดิม ขณะที่ทาเคชิ อิวายะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหมอีกคน จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ
อดีตนายกฯคิชิดะให้คำมั่นที่จะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นสองเท่าและขยายความร่วมมือทางทหารกับสหรัฐและพันธมิตรอื่นๆ ในภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของจีนและเกาหลีเหนือ
อิชิบะสนับสนุนการจัดตั้ง "นาโตแห่งเอเชีย" และกล่าวว่าญี่ปุ่นควรตอบโต้การละเมิดน่านฟ้าหรือน่านน้ำของจีนหรือรัสเซียอย่างรุนแรงมากขึ้น เช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ยังคงมีคำถามว่ารัฐบาลวางแผนจะจ่ายเงินเพื่อยกระดับด้านกลาโหมในทางใด รวมถึงจะหาผู้สมัครเข้ากองทัพได้เพียงพอกับจำนวนประชากรญี่ปุ่นที่ลดลงได้อย่างไร
ทาโร ไซโตะ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสแห่งสถาบันวิจัยเอ็นแอลไอ กล่าวกับเอเอฟพีว่า จนถึงขณะนี้ อิชิบะเน้นไปที่วิธีการปรับปรุงการเงินสาธารณะในญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีหนี้สินสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
"เขาดูเหมือนจะไม่สนใจนโยบายกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจมากนัก แม้ว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับญี่ปุ่นคือการเติบโตที่ต่ำมากกว่าสุขภาพทางการเงิน" ไซโตะกล่าว
โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งมีรายงานว่าจะยังคงทำหน้าที่ต่อไปภายใต้การนำของอิชิบะ ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหุ้นที่ตกกราวรูดเมื่อวันจันทร์ แต่กล่าวว่ารัฐบาลจะตัดสินใจทุกอย่างด้วยการพิจารณาอย่างถ้วนถี่
"เราจะยังคงจับตาดูแนวโน้มตลาดการเงินในประเทศและต่างประเทศอย่างใกล้ชิดด้วยความระมัดระวัง เช่นเดียวกับการให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น และจะพยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารจัดการทั้งด้านเศรษฐกิจและการเงิน" เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกล่าว.