ยืนยัน 'ฮัสซัน นัสรุลลอห์' ผู้ทรงอำนาจที่สุดในเลบานอน เสียชีวิตแล้ว

(ภาพของ ฮัสซัน นัสรุลลอห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ชาวชีอะห์ในเลบานอน ซึ่งถูกสังหารระหว่างการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นภาพที่ใช้ในระหว่างการไว้อาลัยในย่านชานเมืองซาดร์ ทางตะวันออกของกรุงแบกแดด เมื่อวันที่ 29 กันยายน หลังจากอิรักประกาศอย่างเป็นทางการ ช่วงไว้ทุกข์แห่งชาติเป็นเวลาสามวันสำหรับฮัสซัน นัสรุลลอห์ – Photo by Ahmad Al-Rubaye / AFP)

เกิดในเบรุต ไปศึกษาหาความรู้ทางตอนใต้ของอิรัก เป็นผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และเป็นผู้นำมานานหลายปี ฮัสซัน นัสรุลลอห์ตั้งสถานะตนเองเป็นลัทธิทางศาสนา หลังจากอิสราเอลต้องถอนตัวออกจากเลบานอนในปี 2000

เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นชายที่ทรงอำนาจที่สุดในเลบานอน เป็นเจ้าแห่งสงครามและสันติภาพ – ฮัสซัน นัสรุลลอห์ หัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ เป็นผู้นำกลุ่มมาประมาณสามทศวรรษ ตอนนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเขาเป็นหนึ่งในเหยื่อการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อเย็นวันศุกร์

ในตอนแรก กองทัพอิสราเอลประกาศว่าได้สังหารนัสรุลลอห์และผู้บัญชาการอาวุโสคนอื่นๆ ในการโจมตีสำนักงานใหญ่ของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์และอาคารอื่นๆ ในกรุงเบรุต กระทั่งตอนบ่ายวันเสาร์ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ยังได้ยืนยันการเสียชีวิตของนัสรุลลอห์อีกครั้ง

สำหรับผู้สังเกตการณ์แล้ว แหล่งกบดานของผู้นำฮิซบอลเลาะห์เป็นปริศนามานานหลายปี นับตั้งแต่สงครามระหว่างฮิซบอลเลาะห์และอิสราเอลเมื่อปี 2006 นัสรุลลอห์แทบไม่ไปปรากฏตัวในที่สาธารณะเลย นักข่าวที่เคยพบเจอเขารายงานว่า พวกเขาถูกนำตัวขึ้นรถที่มืดมิดไปยังสถานที่ที่ไม่สามารถระบุทิศทางได้ คำปราศรัยของนัสรุลลอห์ส่วนใหญ่ถูกบันทึกและถ่ายทอดจากสถานที่ที่ไม่เปิดเผย

อย่างไรก็ตาม เกมซ่อนหาไม่ได้เป็นอุปสรรคสำหรับเขาในการรับรู้ถึงอารมณ์ของผู้คน ฮัสซัน นัสรุลลอห์เคยบอกกับหนังสือพิมพ์ Al Akhbar ของเลบานอนที่เป็นมิตรกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เมื่อปี 2014 ว่า “ประเด็นของการรักษาความปลอดภัยคือการเก็บที่อยู่ของผมไว้เป็นความลับ แต่นั่นไม่ได้เป็นการยับยั้งไม่ให้ผมรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น” เขาไม่ได้อาศัยอยู่ในบังเกอร์ นัสรุลลอห์กล่าวเสริม แต่เพียงแค่เปลี่ยนสถานที่นอน

ในฐานะสมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งดำรงอยู่มาตั้งแต่ปี 1982 และเป็นผู้นำนับตั้งแต่ได้รับเลือกเป็นเลขาธิการในปี 1992 ชายวัย 64 ปีผู้นี้มีความสุขกับสถานะของตนในหมู่ผู้ติดตามของเขา เหนือสิ่งอื่นใด เขาประสบความสำเร็จจากการถอนกำลังทหารอิสราเอลออกจากเลบานอนตอนใต้ในปี 2000

การหยุดยิงในสงครามระหว่างอิสราเอลและฮิซบอลเลาะห์ที่สหประชาชาติเป็นผู้ไกล่เกลี่ยเมื่อปี 2006 ยังทำให้นัสรุลลอห์ได้รับความนิยมมากขึ้นในโลกอาหรับ แต่ถึงกระนั้นการประกาศในปี 2013 ว่ามีการส่งนักรบไปสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย กลับมีฝ่ายเห็นชอบด้วยไม่มากนัก

ภายใต้การนำของฮัสซัน นัสรุลลอห์ กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้เปลี่ยนจากกองกำลังกองโจรมาเป็นพลังทางการเมืองหลักในเลบานอน โดยมีตัวแทนในรัฐสภาและรัฐบาลด้วย ตามข้อมูลของกลุ่ม กองกำลังติดอาวุธชีอะห์เป็นพันธมิตรกับอิหร่าน มีสมาชิก 100,000 คน และฮิซบอลเลาะห์ยังมีอาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมหาศาลอีกด้วย

กองกำลังติดอาวุธดังกล่าวได้รับความนิยมในหมู่ชาวชีอะห์ในฐานที่มั่นของพวกเขาในเลบานอน เนื่องจากมีการสนับสนุนผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือด้านสุขภาพและการศึกษา อย่างไรก็ตามชาวเลบานอนที่เคร่งศาสนาจำนวนมากก็ยังวิพากษ์วิจารณ์ฮิซบอลเลาะห์ในเชิงลบ

ฮัสซัน นัสรุลลอห์ เกิดเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 1960 ในเบิร์จ ฮัมมุด ย่านยากจนแถบชานเมืองทางตอนเหนือของกรุงเบรุต เป็นหนึ่งในบรรดาพี่น้องเก้าคน พ่อของเขามีอาชีพพ่อค้าขายของชำในหมู่บ้านทางตอนใต้ของเลบานอน เมื่อยังเป็นวัยรุ่น นัสรุลลอห์ศึกษาเทววิทยาในเมืองนาจาฟ ทางตอนใต้ของอิรัก ซึ่งเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์สำหรับชาวชีอะห์ เขาเดินทางออกนอกประเทศอิรักอีกครั้งระหว่างมีเหตุการณ์ข่มเหงชาวชีอะห์ภายใต้การปกครองของซัดดัม ฮุสเซน

เมื่อเดินทางกลับไปเลบานอน นัสรุลลอห์ก็เข้าร่วม ‘ขบวนการอมัล’ เป็นครั้งแรกในปี 1982 (Amal Movement ชื่อย่อของแนวป้องกันเลบานอน อมัลกลายเป็นกองทัพมุสลิมชีอะห์ที่สำคัญในสงครามกลางเมืองเลบานอน) เมื่อกองทัพอิสราเอลบุกเลบานอน เขาและคนอื่นๆ ได้ก่อตั้งกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ (พรรคของพระเจ้า) ขึ้น ซึ่งขณะนั้นได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านแล้ว ปี 1992 นัสรุลลอห์ขณะอายุ 32 ปีก็เข้ารับตำแหน่งผู้นำของกลุ่มติดอาวุธนี้ หลังจากที่ อับบาส อัล-มุสซาวี ผู้นำคนก่อนหน้าถูกสังหารโดยศัตรูตัวฉกาจอย่างอิสราเอล

ในระหว่างการปรากฏตัวซึ่งไม่บ่อยครั้งนัก ผู้นำฮิซบอลเลาะห์มักสวมชุดคลุมแบบดั้งเดิม และมีผ้าโพกศีรษะสีดำที่ระบุว่าเขาเป็น ‘sajd’ ซึ่งเป็นทายาทสายตรงของศาสดาโมฮัมเหม็ด ฮัสซัน นัลรุลลอห์แต่งงานแล้วและมีลูกห้าคน ฮาดี-ลูกชายคนโตของเขาเสียชีวิตในการสู้รบเมื่อปี 1997.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ไทยติดโควิดใหม่รอบสัปดาห์ 287 ราย ดับเพิ่ม 3 คน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 รายสัปดาห์ว่า ระหว่างวันที่ 22 - 28 กันยายน 2567 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ รักษาในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) 287 ราย

ตร.ล่ามือสังหารเด็กม.3 ทิ้งศพบ่อดินร้าง

สงขลาสุดสลด พบศพนักเรียนชายม.3 ถูกฆาตรกรรมคาชุดนักเรียนทิ้งศพในบ่อดินร้างหลังหายไป 5 วัน พร้อมรถจักรยานยนต์และโทรศัพท์มือถือตำรวจเร่งหาเบาะแสผู้ก่อเหตุ

เปิดกำหนดการงานสวดพระอภิธรรม 'อ๋อม อรรคพันธ์'

หลังจากที่พระเอกหนุ่ม อ๋อม-อรรคพันธ์ นะมาตร์ ได้จากไปอย่างสงบ ในวัยเพียงแค่ 39 ปี จากอาการป่วยโรคมะเร็งบริเวณกล้ามเนื้อหัวใจ ล่าสุดทางครอบครัวก็ได้เผยถึง กำหนดการงานสวดพระอภิธรรม ‘อ๋อม อรรคพันธ์