ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุเฮอริเคนเฮลีนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 44 รายใน 5 รัฐของสหรัฐฯ ขณะที่ชุมชนต่างๆต้องเผชิญน้ำท่วมหนัก ทางการระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัยเร่งปฏิบัติการครั้งใหญ่
เศษซากถูกทิ้งไว้ภายในร้านค้าที่ถูกน้ำท่วมหลังจากพายุเฮอริเคนเฮลีนพัดขึ้นฝั่งที่เมืองซีดาร์คีย์ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 กันยายน (Photo by Miguel J. Rodriguez Carrillo / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 28 กันยายน 2567 กล่าวว่า พายุเฮอริเคน 'เฮลีน' พัดขึ้นฝั่งตะวันออกของสหรัฐอเมริกา และอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน แต่ความรุนแรงได้สร้างความเสียหายให้กับหลายรัฐ ทั้งลมและฝนตกหนักในระดับคุกคามชีวิต
ถนน, บ้านเรือน และสถานประกอบการต่างๆ จมอยู่ใต้น้ำหลังจากที่พายุลูกใหญ่พัดขึ้นฝั่งใกล้กับแทลลาแฮสซี เมืองหลวงของรัฐฟลอริดาเมื่อคืนนี้ และมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ทำให้ผู้ใช้ไฟหลายล้านคนไม่มีไฟฟ้าใช้
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติสหรัฐซึ่งตั้งอยู่ในไมอามี รายงานว่า พายุลูกนี้ก่อให้เกิดน้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์และรุนแรง พร้อมเตือนว่าจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันในแอตแลนตา เมืองที่ใหญ่ที่สุดของรัฐจอร์เจีย รวมถึงในรัฐเซาท์แคโรไลนา, นอร์ทแคโรไลนา และเทนเนสซี
คาดการณ์ว่าจะมีฝนตกสูงถึง 12 นิ้ว (30 เซนติเมตร) ในเทือกเขาแอปพาเลเชียน โดยบางจุดอาจตกหนักถึง 20 นิ้ว
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าในเซาท์แคโรไลนา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 ราย รวมถึงนักดับเพลิง 2 ราย, ในรัฐจอร์เจียมีรายงานผู้เสียชีวิต 15 ราย รวมถึงเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในรัฐฟลอริดาอยู่ที่ 7 ราย โดยรอน เดอซานทิส ผู้ว่าการรัฐฟลอริดากล่าวว่า ความเสียหายจากเฮลีนนั้นรุนแรงกว่าพายุเฮอริเคน 'ไอดาเลีย' และ 'เด็บบี' ซึ่งพัดถล่มพื้นที่บิ๊กเบนด์ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแทลลาแฮสซี ในช่วง 13 เดือนที่ผ่านมา
การพัดถล่มของพายุไต้ฝุ่นยางิในเอเชีย, พายุบอริสในยุโรป และน้ำท่วมรุนแรงในแถบซาเฮล ทำให้เดือนกันยายนที่ผ่านมาเป็นเดือนที่มีฝนตกชุกผิดปกติทั่วโลก
นักวิทยาศาสตร์เชื่อมโยงเหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วบางอย่างกับภาวะโลกร้อนที่เกิดจากมนุษย์
อันดรา การ์เนอร์ นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศจากมหาวิทยาลัยโรวันในรัฐนิวเจอร์ซี กล่าวกับเอเอฟพีว่า "เฮลีนเดินทางผ่านน่านน้ำมหาสมุทรที่อุ่นเป็นพิเศษในอ่าวเม็กซิโก ซึ่งเป็นไปได้ว่าน่านน้ำมหาสมุทรที่อุ่นเป็นพิเศษเหล่านี้มีส่วนทำให้เฮลีนทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว"
ล่าสุด บ้านเรือนและหน่วยธุรกิจกว่า 5 ล้านแห่งไม่มีไฟฟ้าใช้ในพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศ ได้แก่ ฟลอริดา, จอร์เจีย, แคโรไลนา, เวอร์จิเนีย, เทนเนสซี, เคนตักกี, โอไฮโอ และเวสต์เวอร์จิเนีย ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ PowerOutage.us
ในเขตที่ได้รับผลกระทบ ประชาชนได้รับคำเตือนเกี่ยวกับคลื่นพายุที่เป็นอันตรายต่อชีวิต
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และเจ้าหน้าที่ของรัฐเรียกร้องให้ประชาชนปฏิบัติตามคำเตือนการอพยพอย่างเป็นทางการก่อนที่พายุเฮลีนจะพัดถล่ม เพราะประชาชนบางส่วนเลือกหลบภัยอยู่แต่ในบ้านเพื่อรอให้พายุสงบลงไปเอง
รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริสกล่าวว่า เธอและไบเดนจะยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และเสริมว่ารัฐบาลกลางได้ระดมเจ้าหน้าที่ 1,500 นายเพื่อช่วยเหลือชุมชนที่ได้รับผลกระทบแล้ว.