ชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) และเตรียมขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น
ชิเงรุ อิชิบะ หัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) คนใหม่ และว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของญี่ปุ่น (Photo by Franck ROBICHON / POOL / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2567 กล่าวว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) เปิดลงคะแนนเสียงเลือกหัวหน้าพรรคฯคนใหม่แทนการวางมือของนายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ และผลปรากฏว่าตัวเต็งอย่างชิเงรุ อิชิบะ อดีตรัฐมนตรีกลาโหม สามารถเบียดเอาชนะคู่แข่งสำคัญไปได้ในการโหวตสองรอบ
หลังจากการประกาศชัยชนะที่สำนักงานใหญ่ของพรรคฯในกรุงโตเกียว อิชิบะร่ำไห้และโค้งคำนับซ้ำแล้วซ้ำเล่าท่ามกลางความยินดีของบรรดาสมาชิก
"ผมจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ประชาชนกลับมาเชื่อมั่นด้วยการพูดความจริงอย่างกล้าหาญและจริงใจ เพื่อทำให้ประเทศนี้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยและมั่นคงสำหรับทุกคนที่จะใช้ชีวิตด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าได้อีกครั้ง" อิชิบะกล่าวในสุนทรพจน์สั้นๆ
อิชิบะเคยเกือบได้ตำแหน่งสูงสุดมาแล้วหลายครั้ง รวมถึงในปี 2555 เมื่อเขาแพ้ให้กับชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่นที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดและเสียชีวิตจากการลอบสังหารเมื่อ 2 ปีก่อน
อดีตหัวเรือใหญ่ทางทหารผู้นี้กล่าวว่า ประสบการณ์ในการจัดการกับปัญหาสังคมที่ยากลำบาก เช่น การปฏิรูปการเกษตร ทำให้เขาเหมาะสมกับตำแหน่งนี้
ทั้งนี้ อิชิบะ วัย 67 ปี สามารถเอาชนะซานาเอะ ทาคาอิจิ รัฐมนตรีความมั่นคงเศรษฐกิจสายอนุรักษนิยม วัย 63 ปีไปได้ ทำให้เป็นการดับฝันของนักการเมืองชาตินิยมสุดโต่งในการก้าวขึ้นเป็นผู้นำหญิงคนแรกของประเทศ
ในการลงคะแนนเสียงรอบแรก อิชิบะและทาคาอิจิมีคะแนนนำเป็นสองอันดับแรก แต่ยังไม่มีผู้ใดได้คะแนนเกินกึ่งหนึ่ง เพราะคะแนนเสียงกระจายไปตามผู้สมัครคนอื่นๆอีก 7 คน ทำให้ต้องมีการลงคะแนนเสียงรอบสองระหว่างอิชิบะและทาคาอิจิ ซึ่งอิชิบะเอาชนะไปได้ในที่สุด
พรรคอนุรักษนิยมได้ปกครองประเทศมาอย่างยาวนานและแทบจะไม่มีการเปลี่ยนขั้วรัฐบาลเป็นเวลาหลายทศวรรษ ด้วยการครองเสียงข้างมากในปัจจุบันทำให้อิชิบะจะได้รับโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีโดยรัฐสภาในวันที่ 1 ตุลาคม
ในฐานะนายกรัฐมนตรี เขาจะต้องเผชิญกับภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาค ทั้งจีนที่แข็งกร้าวมากขึ้นเรื่อยๆ และมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัสเซีย ไปจนถึงการทดสอบขีปนาวุธต้องห้ามของเกาหลีเหนือ
ด้านกิจการภายใน อิชิบะจะได้รับมอบหมายให้ฟื้นคืนชีพเศรษฐกิจและแก้ปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในขณะที่ธนาคารกลางกำลังจะกลับมาเข้มงวดทางการเงินอีกครั้งในรอบหลายทศวรรษเพื่อแก้ปัญหาค่าเงินเยนที่อ่อนลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งประเด็นความเชื่อมั่นของพรรคฯที่สูญเสียไปจากเรื่องอื้อฉาวมากมายในสมัยของฟูมิโอะ คิชิดะ.