'โอลาฟ ชอลซ์' เสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีของ 'คนธรรมดา'

สงครามยูเครน การอภิปรายปัญหาผู้ลี้ภัย การปกป้องสภาพภูมิอากาศ ฯลฯ เมื่อคำนึงถึงประเด็นที่เป็นข้อขัดแย้งมากมายในสังคมชาวเยอรมัน โอลาฟ ชอลซ์เรียกร้องให้มีความสามัคคี และยกย่องการเมืองของเขาเอง

ในการเลือกตั้งระดับรัฐครั้งล่าสุด พรรคทางเลือกเพื่อเยอรมนี (AfD) และพันธมิตรซาห์รา วาเกนคเนชท์ ประสบความสำเร็จเป็นพิเศษในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในขณะที่พันธมิตรพรรคร่วมรัฐบาลกลับแตกคอกันเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์เชื่อว่าสังคมเยอรมนีมีความแตกแยกน้อยกว่าที่สาธารณชนรู้สึก “เราสามัคคีกันมากกว่าแตกแยก ผมเองก็ต้องการให้มันเป็นอย่างนั้น” นักการเมืองสังกัดพรรคสังคมประชาธิปไตยเยอรมนี (SPD) กล่าวในบันทึกข้อความวิดีโอล่าสุด ประชาชนส่วนใหญ่มีความใกล้ชิดกันในประเด็นสำคัญมากขึ้นกว่าที่เห็น

“ผมอยากให้เราพูดคุยกันต่อไป แทนที่จะแค่พูดตอบโต้หรือแย้งกันไปมา” ชอลซ์อุทธรณ์ เพราะมันไม่สำคัญว่า “ใครตะโกนดังที่สุด” เพราะคนกลุ่มใหญ่ที่อยู่ตรงกลางมีจำนวนมากกว่า “คนที่มีสติสัมปชัญญะ คนที่มีคุณธรรมย่อมมีมากกว่านั้นอีกมาก” เขายกตัวอย่างประเด็นต่างๆ เช่น เงินบำนาญ การปกป้องสภาพภูมิอากาศ วิธีจัดการกับปัญหาการย้ายถิ่นฐาน และยูเครน เป็นต้น หัวข้อเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องพูดคุยกัน อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการสนทนา เขามีความรู้สึกว่า “ประเด็นหลักๆ ที่พูดถึงแทบไม่ได้แยกห่างจากกันเลย”

ตัวอย่างเช่น ประชากรส่วนใหญ่รู้ดีว่าเยอรมนีต้องการแรงงานจากต่างชาติอย่างเร่งด่วนในหลายพื้นที่ และขณะเดียวกันก็คาดหวังว่า “เราจะสามารถเลือกได้ว่าใครควรจะมาหาเรา” คล้ายกับการสนับสนุนยูเครน ซึ่งในเวลาเดียวกันก็ใช้วิธีทางการทูตเพื่อสันติภาพควบคู่กันไปด้วย

คลิปวิดีโอดังกล่าวฟังดูคล้ายกับการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งล่วงหน้าโดยผู้สมัครนายกรัฐมนตรีชอลซ์ “ความคาดหวังของคนส่วนใหญ่ในประเทศของเราเป็นแนวทางในการเมืองของผม” เขากล่าว “สำหรับผม มันเป็นเรื่องของคนธรรมดาๆ หลายๆ คนที่มีความปรารถนาธรรมดาๆ ที่ไม่เพียงแค่บ่นเสียงดัง แต่แค่ลงมือทำมัน”

โอลาฟ ชอลซ์วิเคราะห์ว่า สาธารณชนให้ความสนใจกับความคิดเห็นแบบสุดขั้วเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันทุกคนก็ต้องชัดเจนด้วยว่า “มันไม่สำคัญว่าเสียงใครที่ดัง แต่สำคัญที่เราซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่”