มาครงผ่าทางตัน แต่งตั้งรัฐบาลชุดใหม่ด้วยนักการเมืองฝ่ายขวา

ฝรั่งเศสได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว โดยใช้นักการเมืองฝ่ายขวาเป็นแกนหลัก ขณะที่ผู้ประท้วงฝ่ายซ้ายออกมาเดินขบวนบนท้องถนนเพื่อประณามสิ่งที่พวกเขากล่าวว่าเป็นการปฏิเสธผลการเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคม

สมาชิกคณะรัฐมนตรีฝรั่งเศสที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง นำโดยนายกรัฐมนตรีมีแชล บาร์นีเย (บนซ้าย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างๆอีก 19 คน อันได้แก่ (แถวแรกบนสุดจากซ้ายไปขวา) รัฐมนตรียุติธรรม, รัฐมนตรีความร่วมมือระดับภูมิภาคและการกระจายอำนาจ, รัฐมนตรีมหาดไทย, รัฐมนตรีศึกษาธิการ และรัฐมนตรีต่างประเทศและยุโรป (แถวที่ 2 จากซ้าย) รัฐมนตรีวัฒนธรรม, รัฐมนตรีกลาโหม, รัฐมนตรีการเปลี่ยนผ่านทางนิเวศวิทยา พลังงาน สภาพภูมิอากาศ และการป้องกันความเสี่ยง, รัฐมนตรีเศรษฐกิจ การเงิน และอุตสาหกรรม, รัฐมนตรีสาธารณสุขและการเข้าถึงการดูแล (แถวล่างจากซ้าย) รัฐมนตรีความสามัคคี เอกราช และความเท่าเทียมทางเพศ, รัฐมนตรีการเคหะและฟื้นฟูเมือง, รัฐมนตรีเกษตร อธิปไตยด้านอาหาร และป่าไม้, รัฐมนตรีแรงงานและการจ้างงาน, รัฐมนตรีกีฬา เยาวชน และสมาคม, รัฐมนตรีอุดมศึกษาและการวิจัย, รัฐมนตรีราชการพลเรือนและการปฏิรูป, รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานต่างประเทศ และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบงานงบประมาณและบัญชีสาธารณะ (Photo by various sources / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2567 กล่าวว่า ในที่สุดฝรั่งเศสก็ได้รัฐบาลชุดใหม่แล้ว หลังจากยืดเยื้อมานานตั้งแต่การเลือกตั้งที่ไม่มีผู้ชนะเด็ดขาดในเดือนกรกฎาคม

คณะรัฐมนตรีที่ประกาศโดยประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส ได้มีแชล บาร์นีเย อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศวัย 73 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีและหัวเรือใหญ่ในการนำรัฐบาลเสนอแผนงบประมาณปี 2568 เพื่อแก้ไขสถานการณ์ทางการเงินของฝรั่งเศสซึ่งเข้าขั้นเลวร้าย

บาร์นีเย ผู้มีแนวคิดอนุรักษนิยมฝ่ายขวาและอดีตผู้เจรจาของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับเบร็กซิต ต้องทำหน้าที่อันยากลำบากในการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อให้มาครงอนุมัติ ขณะที่พันธมิตรฝ่ายซ้ายซึ่งเป็นกลุ่มที่มีเสียงมากที่สุดในรัฐสภาพร้อมบดขยี้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ด้วยด้วยญัตติไม่ไว้วางใจ หลังจากผิดหวังที่กลุ่มของตนไม่ได้เป็นแกนหลักในรัฐบาลชุดใหม่

กลุ่มแนวร่วมฝ่ายซ้ายกลายเป็นพลังทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสหลังการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนกรกฏาคม แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รับที่นั่งมากเพียงพอต่อการตั้งรัฐบาล

ทั้งนี้ พันธมิตรฝ่ายซ้ายเป็นกลุ่มที่มีเสียงมากที่สุดในรัฐสภา โดยมีฝ่ายกลางของมาครง และฝ่ายขวาจัดได้คะแนนไล่เรียงกันลงมา แต่ไม่มีฝ่ายใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ และทั้งสามฝ่ายไม่มีใครยอมจับมือร่วมกันตั้งรัฐบาลผสม ตลอดจนการนำเสนอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาทำงานร่วมกับมาครง เป็นเหตุให้ฝรั่งเศสต้องรอรัฐบาลใหม่นานกว่า 11 สัปดาห์

มาครงชั่งน้ำหนักทางการเมืองอย่างรอบคอบก่อนเลือกฝ่ายขวามากกว่าฝ่ายซ้าย เขายอมเลือกนายกรัฐมนตรีจากฝั่งขวาเพื่อหวังให้รัฐบาลได้รับการสนับสนุนจากทั้งสายกลางของเขาและฝ่ายอนุรักษนิยม

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลชุดใหม่ได้รับเสียงตอบรับไม่ค่อยดีนักจากฝ่ายขวาจัดที่เรียกคณะรัฐมนตรีชุดนี้ว่าเป็นสัญญาณของการกลับคืนสู่ลัทธิมาโครนิสต์และดูไม่มีอนาคตเลย

ขณะที่ฝ่ายซ้ายจัดเรียกคณะรัฐมนตรีชุดนี้ว่า "รัฐบาลของผู้แพ้การเลือกตั้ง และรัฐบาลหัวรุนแรงที่ไม่สนใจประชาธิปไตย"

ก่อนการประกาศคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดใหม่ ผู้คนหลายพันคนออกมาเดินขบวนบนท้องถนนในกรุงปารีสและเมืองอื่นๆ ของฝรั่งเศสเพื่อแสดงความไม่เห็นด้วย

พวกเขาคัดค้านคณะรัฐมนตรีซึ่งพวกเขาบอกว่าไม่สะท้อนผลที่แท้จริงของการเลือกตั้ง และรัฐบาลชุดใหม่ไม่มีบุคลากรจากฝ่ายซ้ายเลย ทั้งๆที่ได้ที่นั่งเป็นอันดับหนึ่งในรัฐสภา

มีแชล บาร์นีเยจะแถลงนโยบายต่อรัฐสภาในวันที่ 1 ตุลาคม จากนั้นเขามีหน้าที่เร่งด่วนในการส่งแผนงบประมาณไปยังสมัชชาแห่งชาติโดยมุ่งเป้าไปที่การควบคุมการขาดดุลงบประมาณและหนี้สินของฝรั่งเศสที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งเป็นด่านทดสอบสำคัญครั้งแรกของรัฐบาลชุดใหม่

ก่อนที่บาร์นีเยจะได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้ารัฐบาล ฝรั่งเศสกำลังเข้าใกล้สถานะละเมิดกฎงบประมาณของสหภาพยุโรป โดยคาดการณ์ไว้ว่าการขาดดุลภาคสาธารณะของฝรั่งเศสจะสูงถึง 5.6% ของจีดีพีในปีนี้ และสูงเกิน 6% ในปี 2568 ขณะที่กฎของสหภาพยุโรปกำหนดเพดานการขาดดุลไว้ที่ 3% เท่านั้น

บาร์นีเยกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันพุธว่า "ผมค้นพบว่าสถานการณ์งบประมาณของประเทศนั้นเลวร้ายมาก และสถานการณ์นี้ต้องการมากกว่าแค่คำแถลงที่สวยหรู"

ทั้งนี้ กำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ครั้งแรกจะเริ่มในช่วงบ่ายวันที่ 23 กันยายน.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ซีรีส์ดัง 'Emily in Paris' ได้นักแสดงรับเชิญระดับภริยาประธานาธิบดี

บริจิตต์ มาครง ภริยาของประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ผละออกจากคอมฟอร์ตโซนชั่วคราว เพื่อเข้าสู่ดินแดนที่เธอไม่คุ้นเคย นั่นคือแวดวงบันเทิง โดยเธ

พันธมิตรฝ่ายซ้ายในฝรั่งเศสเสนอ ‘ลูซี กาสเต็ทส์’ ลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผู้ชนะการเลือกตั้งรัฐสภาช่วงต้นในฝรั่งเศสตัดสินใจเลือก ลูซี กาสเต็ทส์ เป็นหัวหน้ารัฐบาลในอนาคต แต่ประธา