ผบ.ระดับสูงฮิซบุลเลาะห์เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลในเบรุต

อิสราเอลสังหารผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในการโจมตีที่เจ้าหน้าที่เลบานอนระบุว่าทำให้มีผู้เสียชีวิต 14 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบคนในฐานที่มั่นกรุงเบรุต

ควันหนาทึบลอยขึ้นเหนือชานเมืองทางตอนใต้ของกรุงเบรุต หลังจากอิสราเอลโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ เมื่อวันที่ 20 กันยายน (Photo by AFP)

ประกาศจับ 'อิบราฮิม อากิล' ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ 'รัดวาน' ของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ ที่สหรัฐอเมริกาต้องการตัวในข้อหาเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดสถานทูตสหรัฐในกรุงเบรุตเมื่อปี 2526 (Photo by Handout / US State Department / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 21 กันยายน 2567 กล่าวว่า อิสราเอลเปิดฉากโจมตีเป้าหมายฐานที่มั่นของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอน และได้สังหารผู้บัญชาการระดับสูง รวมทั้งเจ้าหน้าที่อีกหลายนาย

อิบราฮิม อากิล ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษ 'รัดวาน' ของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของสหรัฐอเมริกาในข้อหาเกี่ยวข้องกับการวางระเบิดสถานทูตสหรัฐในกรุงเบรุตเมื่อปี 2526 ถูกสังหารจากการโจมตีครั้งนี้ของอิสราเอล

สหรัฐอเมริกาตั้งรางวัล 7 ล้านดอลลาร์สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับอากิล โดยระบุว่าเขาเป็นสมาชิกหลักขององค์กรที่อ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุระเบิดสถานทูตเมื่อปี 2526 ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 63 ราย

กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ยืนยันเมื่อช่วงค่ำวันศุกร์ว่า อากิลได้เสียชีวิตแล้ว พร้อมยกย่องเขาเป็นหนึ่งในผู้นำที่ยิ่งใหญ่ของกลุ่ม

นักข่าวเอเอฟพีที่อยู่ในที่เกิดเหตุกล่าวว่าการระเบิดทำให้เกิดหลุมขนาดใหญ่และทำลายชั้นล่างของอาคารสูงในเขตชานเมืองทางใต้ของกรุงเบรุต โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงใช้เครื่องจักรหนักในการค้นหาผู้คนใต้ซากปรักหักพังหลายชั่วโมงหลังการโจมตี

อากิลถือเป็นผู้บัญชาการระดับสูงของฮิซบุลเลาะห์คนที่สองที่ถูกสังหารนับตั้งแต่เริ่มต้นสงครามในฉนวนกาซา โดยก่อนหน้านี้การโจมตีเบรุตของอิสราเอลในเดือนกรกฎาคมได้คร่าชีวิตฟูอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงสุดและหัวหน้าหน่วยยุทธศาสตร์ของกลุ่มฯ และเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกรณีการระเบิดอุปกรณ์สื่อสารที่สมาชิกฮิซบุลเลาะห์ใช้งาน ถึงสองครั้งเมื่อวันอังคารและวันพุธ ซึ่งฮิซบุลเลาะห์กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล

การระเบิดอุปกรณ์สื่อสารในวงกว้างคร่าชีวิตผู้คนไปหลายสิบรายและทำให้ฮิซบุลเลาะห์ต้องตกที่นั่งลำบาก เพราะอิสราเอลเบนเป้ายุทธศาสตร์การรบไปยังเลบานอน โดยไม่ทิ้งฉนวนกาซา

สหประชาชาติแสดงความกังวลอย่างยิ่งเกี่ยวกับความรุนแรงที่เริ่มขยายพื้นที่ และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างเต็มที่

กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า พวกตนได้โจมตีอย่างมีเป้าหมาย และนอกจากอากิลแล้ว ยังได้สังหารผู้บัญชาการระดับสูงของรัดวานอีกประมาณ 10 รายด้วย

หน่วยรบพิเศษ 'รัดวาน' ของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์มีอากิลเป็นหัวหอกในการปฏิบัติการภาคพื้นดินมาโดยตลอด และอิสราเอลได้เรียกร้องผ่านผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศหลายครั้งให้ขับไล่พวกนักรบออกไปจากชายแดน

แหล่งข่าวใกล้ชิดกับฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่า อากิลกำลังอยู่ในที่ประชุมกับเหล่าผู้บัญชาการ ขณะที่เกิดการสังหาร

กระทรวงสาธารณสุขของเลบานอนกล่าวว่า การโจมตีล่าสุดของอิสราเอลได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 14 รายและทำให้บาดเจ็บอีก 66 คน

ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลและนักรบฮิซบุลเลาะห์ต่อสู้กันตามแนวชายแดนอิสราเอล-เลบานอนตั้งแต่กลุ่มฮามาสจุดชนวนสงครามในฉนวนกาซาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

เป็นเวลาเกือบหนึ่งปีแล้วที่อิสราเอลมุ่งเป้าไปที่ฉนวนกาซา แต่เนื่องจากฮามาสอ่อนแอลงมาก สงครามจึงมุ่งเป้าไปที่ชายแดนทางเหนือของอิสราเอลในลำดับต่อไป

แม้กองทัพฯจะออกตัวว่าไม่ได้ตั้งเป้าที่จะยกระดับความรุนแรงในภูมิภาค แต่กลุ่มฮามาสประณามการโจมตีเลบานอนว่าเป็นการรุกรานที่โหดร้าย และเป็นการก่อการร้าย สอดคล้องกับกระทรวงต่างประเทศของอิหร่านที่กล่าวหาอิสราเอลว่าพยายามขยายขอบเขตของสงคราม

การโจมตีครั้งล่าสุดต่อกลุ่มฮิซบุลเลาะห์เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่หลายพันคนของกลุ่มฯถูกระเบิดที่ติดตั้งในอุปกรณ์ติดตามตัวและวิทยุสื่อสารภาย ทำให้เสียชีวิต 37 รายและบาดเจ็บอีกนับพันในเวลาสองวัน

ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ หัวหน้ากลุ่มฮิซบุลเลาะห์ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่า อิสราเอลจะต้องเผชิญกับการแก้แค้นจากเหตุระเบิดดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ อิสราเอลกล่าวว่ากลุ่มฮิซบุลเลาะห์ได้ยิงจรวดหลายสิบลูกจากเลบานอนเพื่อโจมตีฐานทัพทหารอิสราเอลอย่างน้อย 6 แห่ง แต่ระบบป้องกันภัยทางอากาศสกัดไว้ได้ทั้งหมด

กระทรวงกลาโหมอิสราเอลยืนยันว่า กลุ่มฮิซบุลเลาะห์จะต้องสูญเสียมากขึ้นไปอีก ในขณะที่พลเมืองของตนจะต้องได้กลับคืนสู่พื้นที่ชายแดนอย่างปลอดภัย

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลเลื่อนกำหนดการเดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาออกไปหนึ่งวัน โดยเขาจะไปกล่าวปราศรัยต่อสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับความคืบหน้าในสงคราม

โวลเกอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า กรณีการโจมตีอุปกรณ์สื่อสารของฮิซบุลเลาะห์นั้นละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และอาจเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมสงคราม

เครื่องรับส่งและวิทยุสื่อสารระเบิดขึ้นในขณะที่ผู้ใช้กำลังจับจ่ายซื้อของในซูเปอร์มาร์เก็ต, เดินบนท้องถนน และเข้าร่วมงานศพ ทำให้ทั้งประเทศตกอยู่ในความตื่นตระหนก

เติร์กกล่าวว่า "ผมตกตะลึงกับขอบเขตและผลกระทบของการโจมตีครั้งนี้" และเสริมว่า "การกระทำรุนแรงที่มุ่งหวังจะแพร่กระจายความหวาดกลัวในหมู่พลเรือนถือเป็นอาชญากรรมสงครามอย่างไม่ต้องสงสัย".

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง