น้ำท่วมในกรุงเนปยีดอของเมียนมายังคงสาหัส ผู้คนต้องลุยน้ำอพยพอย่างทุลักทุเล ขณะที่สถานการณ์ฝั่งเวียดนามเริ่มดีขึ้น เมื่อระดับน้ำท่วมลดลงและอาจกลับเข้าสู่ภาวะปกติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ประชาชนได้รับความช่วยเหลือในการอพยพจากเจ้าหน้าที่ทหารท่ามกลางสภาวะน้ำท่วมสูงในเมืองปินมานา เขตเนปยีดอ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 13 กันยายน (Photo by Sai Aung MAIN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 กล่าวว่า ประชาชนในบางส่วนของเวียดนาม, ลาว, ไทย และเมียนมากำลังต่อสู้กับน้ำท่วมและดินถล่มจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่นยางิซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักในภูมิภาคนี้เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว
ยอดผู้เสียชีวิตในทั้ง 4 ประเทศอยู่ที่เกือบ 300 ราย รวมถึง 233 รายในเวียดนาม โดยคาดว่าจำนวนผู้สูญหายจะเพิ่มขึ้นอีก
ในกรุงฮานอย เมืองหลวงของเวียดนาม ประชาชนพร้อมพลั่ว, แปรง และสายยาง ออกไปทำความสะอาดเศษซากและดินโคลน หลังจากระดับน้ำที่ท่วมเมืองบางส่วนลดลงและพระอาทิตย์ปรากฎให้เห็นเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน
แม่น้ำแดงที่ไหลผ่านกรุงฮานอยถึงระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีในสัปดาห์นี้ ได้ระบายน้ำส่วนใหญ่ออกไปทางทะเลแล้ว ทำให้สถานการณ์ในเมืองหลวงคลี่คลายและน่าจะกลับสู่ภาวะปกติได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ประชาชนทั้งหมด 130,000 คนอพยพออกจากพื้นที่ทางตอนเหนือของเวียดนามตั้งแต่พายุไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มเมื่อวันเสาร์ และหลายคนยังไม่สามารถกลับบ้านได้ ขณะที่บ้านเรือนกว่า 135,000 หลังได้รับความเสียหายตามรายงานของทางการ
ในเหตุการณ์ครั้งเดียวที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดคือ ดินถล่มในจังหวัดหล่าวกาย ซึ่งทำลายบ้านเรือน 37 หลังและคร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 48 ราย แต่ข่าวดีก็คือ ผู้ที่สูญหายจากดินถล่ม 8 คนและถูกสันนิษฐานว่าอาจจะเสียชีวิต ได้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว โดยบางคนอาศัยอยู่กับญาติ ส่วนบางคนสามารถหนีออกมาได้ทันเวลา
ขณะที่รัฐบาลทหารเมียนมาเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ประชาชนมากกว่า 235,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนของตนเอง ส่งผลให้ประเทศที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจในปี 2564 ต้องประสบกับความทุกข์ยากมากยิ่งขึ้น
ชาวบ้านหลายร้อยคนจำเป็นต้องลุยผ่านระดับน้ำที่สูงถึงคางเพื่อหนีน้ำท่วมรุนแรงรอบกรุงเนปยีดอ บางคนลากแพชั่วคราวที่บรรทุกสิ่งของของตนเองไปด้วย ในขณะที่บางคนลากจูงปศุสัตว์ไปยังพื้นที่สูง
ซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมากล่าวว่า ทางการกำลังสอบสวนรายงานที่ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าแรงงานต่างด้าวหลายสิบคนสูญหายไปจากเหตุดินถล่มในพื้นที่เหมืองทองคำในเขตมัณฑะเลย์
รัฐบาลทหารรายงานยอดผู้เสียชีวิตเมื่อวันศุกร์ที่ 33 ราย ขณะที่ก่อนหน้านี้ หน่วยดับเพลิงของประเทศรายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบศพแล้ว 36 ศพ
สื่อของรัฐรายงานว่าน้ำท่วมในพื้นที่รอบเมืองหลวงทำให้เกิดดินถล่มและเสาไฟฟ้าหักโค่น เช่นเดียวกับความเสียหายที่เกิดต่ออาคาร, ถนน, สะพาน และบ้านเรือน
ภาคเหนือของประเทศไทยได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นกัน มียอดผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 10 รายจากอุทกภัยครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 80 ปี
ขณะนี้ เที่ยวบินไปยังสนามบินเชียงรายได้กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง หลังจากสายการบินหยุดให้บริการไปเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า
สำหรับสถานการณ์ในฝั่งลาว คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงซึ่งเป็นหน่วยงานระหว่างประเทศที่ดูแลเส้นทางน้ำสำคัญสายนี้ออกคำเตือนเรื่องอุทกภัยในหลายพื้นที่ริมแม่น้ำโขง รวมถึงกรุงเวียงจันทน์ ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาอีกแล้ว! กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุดีเปรสชัน กระทบไทยมีฝนตกหนักตั้งแต่ 21 ก.ย.
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนที่มีแนวโน้มจะกระทบต่อประเทศไทย