ผู้คนในเมืองหลวงของเวียดนามต้องลุยน้ำลึกถึงเอว ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำพุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี และยอดผู้เสียชีวิตจากพายุไต้ฝุ่นพุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 179 ราย โดยประเทศเพื่อนบ้านอ่วมไม่แพ้กัน
ระดับน้ำในแม่น้ำแดงที่เอ่อล้นเข้าท่วมกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 10 กันยายน หลังจากพายุไต้ฝุ่นยางิพัดถล่มภาคเหนือของประเทศ (Photo by AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2567 กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในกรุงฮานอยของเวียดนามยังคงวิกฤต โดยประชาชนในเมืองหลวงต้องเผชิญระดับน้ำสูงถึงเอวในวันพุธ ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำแดงพุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี และอาจทะลักท่วมเมืองมากขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น 'ยางิ' ซึ่งรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปีพุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 179 ราย และสูญหาย 145 คนทั่วประเทศ นอกจากนี้ฝนที่ตกหนักยังทำให้เกิดน้ำท่วมและดินถล่มทำลายล้างในพื้นที่ทางตอนเหนือของลาว, ไทย และเมียนมาอีกด้วย คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก
มีรายงานดินถล่มในหมู่บ้าน 'ลางนู' บนภูเขาอันห่างไกลในจังหวัดหล่าวกาย ทำให้พื้นที่หมู่บ้านทั้งหมดราบเป็นหน้ากลองด้วยโคลนและหิน
สื่อเวียดนามยังรายงานด้วยว่า มีผู้เสียชีวิตในหมู่บ้านอย่างน้อย 34 ราย และยังมีผู้สูญหายอีก 46 คน โดยหน่วยกู้ภัยมีแค่จอบและพลั่วในการขุดดินเพื่อค้นหา
นักพยากรณ์อากาศกล่าวว่าระดับน้ำในฮานอยถึงจุดสูงสุดแล้ว และระดับน้ำในแม่น้ำแดงจะลดลง พร้อมเตือนว่าจะมีน้ำท่วมรุนแรงเป็นวงกว้างในพื้นที่รอบเมืองหลวงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ตำรวจ, ทหาร และอาสาสมัครช่วยเหลือประชาชนหลายร้อยคนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งแม่น้ำที่เอ่อล้นในกรุงฮานอย เพื่ออพยพออกจากบ้านในช่วงเช้าตรู่ เนื่องจากระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
ตำรวจฮานอยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่กำลังเดินเท้าและใช้เรือไปตรวจสอบบ้านทุกหลังริมแม่น้ำ
"ประชาชนทุกคนต้องอพยพทันที เจ้าหน้าที่จะนำพวกเขาไปยังอาคารสาธารณะที่กลายเป็นที่พักพิงชั่วคราวหรือพวกเขาสามารถอาศัยอยู่กับญาติในพื้นที่อื่นๆได้ ขณะนี้ฮานอยไม่ปลอดภัยเพราะฝนตกหนักมากและระดับน้ำก็สูงขึ้นอย่างรวดเร็ว" ตำรวจกล่าว
ขณะที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงฮานอยกล่าวว่า สหรัฐฯ ได้อนุมัติงบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างเร่งด่วนมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ให้แก่เวียดนาม
เมื่อวันอังคาร ประชาชน 59,000 คนถูกบังคับให้อพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากพื้นที่อยู่อาศัยบางส่วนของจังหวัดท้ายเหงียนและเอียนบ๊ายจมอยู่ใต้น้ำเกือบหมด โดยประชาชนที่อพยพไม่ทันได้หนีขึ้นไปหลบอยู่บนหลังคาเพื่อขอความช่วยเหลือ
เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าไปช่วยผู้สูงอายุและเด็กในชุมชนที่อยู่อาศัย ขณะที่ญาติของผู้ที่ติดอยู่ในน้ำท่วมได้โพสต์คำร้องขอความช่วยเหลือและสิ่งของจำเป็นอย่างสิ้นหวัง
ในประเทศลาวซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ทางการได้อพยพประชาชน 300 คนจากหมู่บ้าน 17 แห่งในจังหวัดหลวงน้ำทาทางตอนเหนือ
โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติแสดงความวิตกกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของชุมชนในภาคเหนือของลาว ขณะที่วิทยุกระจายเสียงแห่งชาติรายงานว่าบ้านเรือน, ถนน, ตลาด, โรงเรียน และพื้นที่เกษตรกรรมได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยมียอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมอย่างน้อย 1 ราย
ในประเทศไทย มีรายงานผู้เสียชีวิต 4 รายในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายทางภาคเหนือ โดยกองทัพได้ส่งกำลังพลไปช่วยเหลือครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมประมาณ 9,000 ครอบครัว
ในประเทศเมียนมา มีฝนตกติดต่อกันหลายวันในบริเวณกรุงเนปยีดอ ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำพุ่งสูงถึงระดับอันตราย ตามรายงานของรัฐบาลทหาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต แต่ยังไม่มีการยืนยันว่ากี่ราย
ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบกับฝนมรสุมทุกปี แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่มีต้นเหตุจากมนุษย์ ทำให้เกิดรูปแบบสภาพอากาศที่รุนแรงขึ้น กลายเป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรงกว่าปกติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาอีกแล้ว! กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุดีเปรสชัน กระทบไทยมีฝนตกหนักตั้งแต่ 21 ก.ย.
กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนที่มีแนวโน้มจะกระทบต่อประเทศไทย