แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ เสร็จสิ้นเคมีบำบัดแล้ว มุ่งมั่นหายขาดจากมะเร็ง

หลังจากได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งเมื่อต้นปี เจ้าหญิงเคททรงประกาศว่า พระองค์ปราศจากมะเร็งแล้ว แต่ยังทรงอยู่ในกระบวนการฟื้นฟูพระวรกาย

แคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงแย้มสรวลอย่างมีความสุขร่วมกับเจ้าชายวิลเลียม เจ้าชายแห่งเวลส์ และพระโอรสพระธิดาของพระองค์ อันได้แก่ เจ้าชายจอร์จ, เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ และเจ้าชายหลุยส์ ในภาพวีดีโอซึ่งถ่ายที่เมืองนอร์ฟอล์กเมื่อเดือนสิงหาคม และได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 9 กันยายน พร้อมแถลงการณ์ของเจ้าหญิงแห่งเวลส์ที่ว่าพระองค์เสร็จสิ้นเคมีบำบัดแล้ว และกำลังมุ่งมั่นจะหายขาดจากโรคมะเร็ง (Photo by Will WARR / KENSINGTON PALACE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 10 กันยายน 2567 กล่าวว่า ภายหลังจากแคทเธอรีน เจ้าหญิงแห่งเวลส์ ทรงประกาศว่าพระองค์ได้รับการวินิจฉัยเป็นมะเร็ง และต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดเมื่อช่วงเดือนมีนาคม ล่าสุดพระองค์ทรงออกแถลงการณ์ว่ากระบวนการเคมีบำบัดเสร็จสิ้นลงแล้ว

การประกาศครั้งนี้จะช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับราชวงศ์อังกฤษได้เป็นอย่างดี หลังจากที่เผชิญกับความยากลำบากตลอดปีที่ผ่านมา ทั้งองค์เจ้าหญิงเคทเองและพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ประมุขแห่งรัฐที่ทรงประชวรโรคมะเร็งเช่นเดียวกัน

"ข้าพเจ้ารู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก หลังได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัดจนเสร็จสิ้น" เจ้าหญิงเคทตรัสผ่านโซเชียลมีเดีย X และ Instagram

เจ้าหญิงผู้ทรงพระชนมายุ 42 พรรษาตรัสว่า 9 เดือนที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเกินบรรยายสำหรับครอบครัว ซึ่งประกอบไปด้วย เจ้าชายวิลเลียม พระสวามี, เจ้าชายจอร์จ (11 พรรษา), เจ้าหญิงชาร์ล็อตต์ (9 พรรษา) และเจ้าชายหลุยส์ (6 พรรษา)

"ชีวิตที่เรารู้จักสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา ซึ่งเราต้องหาวิธีที่จะฝ่าฟันอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้ และในตอนนี้ข้าพเจ้าเองก็มุ่งเน้นที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ปราศจากมะเร็ง"

"แม้ว่าข้าพเจ้าจะทำเคมีบำบัดเสร็จแล้ว แต่เส้นทางสู่การรักษาและฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์ของข้าพเจ้ายังอีกยาวไกล ที่ทำได้คือต้องดำเนินชีวิตต่อไปในแต่ละวัน"

"อย่างไรก็ตาม ข้าพเจ้าตั้งตารอที่จะกลับไปทำงานและทำกิจกรรมสาธารณะอีกสองสามอย่างในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากเป็นไปได้" เจ้าหญิงเคทตรัส

นอกจากนี้ยังมีการเผยแพร่วีดีโอที่สำนักพระราชวังเคนซิงตันระบุว่าถ่ายทำเมื่อเดือนที่แล้ว โดยมีเนื้อหาเป็นช่วงชีวิตที่เจ้าหญิงเคทและเจ้าชายวิลเลียมทรงใช้เวลาอย่างมีความสุขกับพระโอรสและพระธิดาของพระองค์ในชนบทของมณฑลนอร์ฟอล์กและที่ชายหาดทางตะวันออกของอังกฤษ ซึ่งพระองค์ประทับอยู่

เจ้าหญิงเคทตรัสเพิ่มเติมว่า "ช่วงเวลาหลายเดือนนับตั้งแต่การวินิจฉัยค้นพบการเจ็บป่วย ช่วยเตือนให้วิลเลียมและข้าพเจ้าได้ไตร่ตรองและรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่เรียบง่ายแต่สำคัญในชีวิต ซึ่งพวกเราหลายคนมักมองข้ามไป นั่นคือ การรักและการได้รับความรัก"

ก่อนทิ้งท้ายว่า "ถึงทุกคนที่ยังคงต่อสู้กับมะเร็งอยู่ ข้าพเจ้าขออยู่เคียงข้างพวกคุณ ขอให้จับมือกันไว้ และเชื่อมั่นว่าแสงสว่างสามารถส่องออกมาจากความมืดมิดได้ ดังนั้นจงปล่อยให้แสงสว่างนั้นส่องประกาย"

องค์กรการกุศลเพื่อการรักษามะเร็งตอบสนองต่อการประกาศของเจ้าหญิงเคท โดยลอร่า ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารมูลนิธิแม็กกี้ ซึ่งช่วยเหลือผู้ป่วยมะเร็งและครอบครัว กล่าวว่าเป็น "ข่าวดีอย่างยิ่ง"

"การที่ผู้ป่วยมะเร็งจำนวนมากได้รับการรักษาและได้รับกำลังใจจากวิดีโอและแถลงการณ์ของเจ้าหญิงเคท ถือเป็นประโยชน์ที่มีค่าอย่างมาก และเป็นการสร้างความหวังให้กับคนอื่นๆ ที่ประสบกับภาวะเจ็บป่วยแบบเดียวกัน" ลอร่ากล่าว

อีกด้านหนึ่ง สมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ซึ่งได้รับการวินิจฉัยว่าทรงเป็นมะเร็งที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นมะเร็งชนิดใด สามารถกลับมาปฏิบัติพระราชกรณียกิจได้อีกครั้งในเดือนเมษายน หลังจากเข้ารับการรักษาจนพระพลานามัยฟื้นตัว

และล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเสด็จพร้อมพระราชินีคามิลลา และสมาชิกราชวงศ์คนอื่นๆ ไปยังงาน Braemar Gathering Highland Games และทรงเข้าร่วมพิธีทางศาสนาเพื่อร่วมฉลองครบรอบ 2 ปีการขึ้นครองราชย์ของพระองค์.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจ้าชายวิลเลียมเร้านักเตะ 'สิงโตคำราม' เก็บผลเสมอแมตช์ก่อนยังไม่ใช่จุดจบ

เจ้าชายวิลเลียม ทรงปลุกเร้านักเตะ "สิงโตคำราม" ทีมชาติอังกฤษ หลังทำได้แค่เสมอ เดนมาร์ก 1-1 ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2024 รอบแรก กลุ่ม ซี ที่เมืองแฟรงค์เฟิร์ต เมื่อวันพุธที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา

ยิงปืนใหญ่สดุดีเนื่องในวันครบรอบปีแรกพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3

วันครบรอบพระราชพิธีราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 มีขึ้นเป็นปีแรกเมื่อวันจันทร์ เมื่อเวลา 12.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่

เมื่อสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ทรงเปิดเผยความจริงต่อสาธารณะ

ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 1952 ที่พระราชวังแซนดริงแฮม พระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งเป็นพระอัยกาของสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 สิ้นพระชนม์อ