ไต้ฝุ่นยางิอ่อนกำลังลงหลังจากทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบรายในเวียดนาม, จีน และฟิลิปปินส์

ไต้ฝุ่นยางิอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันในวันอาทิตย์ หลังจากคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่าสิบราย, พังหลังคาบ้านเรือน, จมเรือ และทำให้เกิดดินถล่มทั่วเวียดนาม

อาคารและกองเศษซากความเสียหายบนถนนจากอิทธิพลของซูเปอร์ไต้ฝุ่นยางิที่พัดถล่มเมืองฮาลอง ในจังหวัดกว๋างนิญ ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 8 กันยายน (Photo by NHAC NGUYEN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 9 กันยายน 2567 กล่าวว่า ซูเปอร์ไต้ฝุ่น 'ยางิ' ที่พัดถล่มเวียดนามอย่างรุนแรง ได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุหมุนเขตร้อน หรือดีเปรสชันแล้ว หลังทิ้งร่องรอยการทำลายล้างและคร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 40 รายทั้งในเวียดนาม, ภาคใต้ของจีน และเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์

สื่อของเวียดนามรายงานเมื่อช่วงดึกของวันอาทิตย์ว่า พายุลูกนี้คร่าชีวิตผู้คนไป 21 รายและเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 229 คน โดยบรรดาผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากดินถล่มเพราะฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศซึ่งรับแรงปะทะจากพายุ

ตั้งแต่วันศุกร์เป็นต้นมา มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพายุอีกหลายราย โดยบางรายจมน้ำหรือถูกต้นไม้ล้มทับ ตามรายงานของหน่วยงานจัดการภัยพิบัติของกระทรวงกลาโหม

แม้ว่าสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของเวียดนามจะลดระดับความรุนแรงของพายุเมื่อวันอาทิตย์ แต่หลายพื้นที่ของเมืองท่าไฮฟองยังคงมีปริมาณน้ำท่วมสูงแตะระดับ 50 ซม. และไฟฟ้าดับเพราะสายไฟและเสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย

หน่วยงานจัดการภัยพิบัติรายงานว่า ที่อ่าวฮาลองซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของยูเนสโก ห่างจากตัวเมืองขึ้นไปตามชายฝั่งประมาณ 70 กิโลเมตร พบร่องรอยเรือกว่า 30 ลำพังเสียหายที่บริเวณริมชายฝั่ง หลังจากถูกลมแรงและคลื่นซัดเข้าใส่

หน่วยงานฯยังระบุด้วยว่า ไต้ฝุ่นยังสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนเกือบ 3,300 หลัง และพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 120,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 750,000 ไร่) ในภาคเหนือของประเทศ

รัฐบาลกลางและท้องถิ่นของเวียดนามกำลังเร่งประเมินความเสียหายทั้งในภาคประชาชนและภาคธุรกิจ เพื่อเตรียมการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน

ก่อนพัดขึ้นฝั่งที่เวียดนาม ไต้ฝุ่นยางิได้พัดผ่านภาคใต้ของจีนและฟิลิปปินส์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 รายและบาดเจ็บอีกหลายสิบคน โดยทั้งสองประเทศเริ่มสำรวจความเสียหายและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูแล้ว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 13 ไต้ฝุ่น 'หยินซิ่ง' อ่อนกำลังเป็นพายุโซนร้อนแล้ว

นางสาวสุกันยาณี ยะวิญชาญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “หยินซิ่ง” ฉบับที่ 13 โดยมีใจความว่า

อัพเดทพายุก่อตัว 3 ลูก  ปรากฎการณ์ลานีญา ความถี่ผิดปกติเดือนพ.ย.

กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดทสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ ก่อตัวทั้งหมด 3 ลูก จากปรากฎการณ์ลานีญา ทำให้เกิดความถี่ผิดปกติในเดือน พ.ย.

อัปเดตเส้นทางดีเปรสชัน 'หยินซิ่ง' ทวีรุนแรงเป็น 'พายุโซนร้อน'

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถาการณ์พายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกและทะเลจีนใต้ ล่าสุดเช้าวันนี้ : ในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก พายุดีเปรสชันได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน "หยินซิ่ง (YINXING)" แล้ว

กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุดีเปรสชัน จะทวีกำลังแรงขึ้นอีก

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถานการณ์พายุหมุนเขตร้อนในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก เวลา 13.00น.(21/10/67) : พายุดีเปรสชันในมหสมุทรแปซิฟิกตะวันตก กำลังเคลื่อนตัวทางตะวันตก

กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุ 2 ลูกในมหาสมุทรแปซิฟิก

กรมอุตุนิยมวิทยา อัปเดตสถาการณ์พายุหมุนเขตร้อน บ่ายวันนี้ (13.00น.) : บริเวณมหาสมุทรตะวันตก มีพายุอยู่ 2 ลูก 1. พายุดีเปรสชัน ทางด้านตะวันออกของเกาะลูซอล ประเทศฟิลิปปินส์ มีแนวโน้มจะแรงขึ้น

'ดร.ธรณ์' ดึงสติ ไม่ต้องตื่นตระหนกพายุลูกใหญ่ถล่ม หากมาจริงจะแจ้งล่วงหน้า

ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ นักวิชาการด้านทะเลและสิ่งแวดล้อม อาจารย์ประจำภาควิชาวิทยาศาสตร์ทางทะเล คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า