เอมมานูเอล มาครงแต่งตั้งมีแชล บาร์นีเย อดีตผู้เจรจาเบร็กซิตของสหภาพยุโรป เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส ยุติความขัดแย้งทางการเมืองเกือบสองเดือนหลังจากการเลือกตั้งที่ยังไม่ได้รัฐบาล
มีแชล บาร์นีเย นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส (Photo by JOEL SAGET / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 5 กันยายน 2567 กล่าวว่า ผ่านการเลือกตั้งทั่วไปมาแล้วเกือบสองเดือน แต่ฝรั่งเศสยังคงไม่มีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีใหม่ เพราะยังไม่มีพรรคการเมืองในรัฐสภาที่สามารถรวบรวมเสียงในการจัดตั้งรัฐบาลผสมได้
ล่าสุด ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ได้ทำการแต่งตั้งมีแชล บาร์นีเย เป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของฝรั่งเศส
บาร์นีเย วัย 73 ปี ซึ่งเป็นนายกรัฐมนตรีที่อาวุโสที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสยุคใหม่ ได้รับมอบหมายให้จัดตั้ง "รัฐบาลที่เป็นหนึ่งเดียวเพื่อรับใช้ประเทศ" ตามการระบุของทำเนียบประธานาธิบดี
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศผู้นี้จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากกาเบรียล แอตทาล วัย 35 ปี ซึ่งเป็นชายที่อายุน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของตัวเขาเอง และดำรงตำแหน่งมาเพียง 8 เดือน
การแต่งตั้งนักการเมืองอาวุโสซึ่งเป็นสมาชิกพรรคฝ่ายขวาและไม่สังกัดฝ่ายกลางของมาครง ทำให้ฝ่ายซ้ายผิดหวังและเตรียมโค่นล้มเขาในรัฐสภาด้วยญัตติไม่ไว้วางใจ
กลุ่มแนวร่วมฝ่ายซ้ายกลายเป็นพลังทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสหลังการเลือกตั้งเมื่อต้นเดือนกรกฏาคม แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้รับที่นั่งมากเพียงพอต่อการตั้งรัฐบาล
ทั้งนี้ พันธมิตรฝ่ายซ้ายเป็นกลุ่มที่มีเสียงมากที่สุดในรัฐสภา โดยมีฝ่ายกลางของมาครง และฝ่ายขวาจัดได้คะแนนไล่เรียงกันลงมา แต่ไม่มีฝ่ายใดได้เสียงเกินกึ่งหนึ่งพอที่จะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ และทั้งสามฝ่ายไม่มีใครยอมจับมือร่วมกันตั้งรัฐบาลผสม ตลอดจนการนำเสนอนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่จะมาทำงานร่วมกับมาครง
ก่อนหน้านี้ ผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสมีอยู่ 2 คน ได้แก่ แบร์นาร์ กาซเนิฟว์ อดีตนายกรัฐมนตรีสังคมนิยม และซาเวียร์ เบอร์ทรานด์ อดีตรัฐมนตรีอนุรักษนิยม แต่ทั้งคู่กลับถูกละเลยไปเพราะระบบรัฐสภาชุดใหม่ของฝรั่งเศสไม่เอื้ออำนวยต่อพวกเขา
ในฝรั่งเศส ประธานาธิบดีจะเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี และรัฐสภาหรือสภาล่างจะซักฟอกเขาด้วยญัตติไม่ไว้วางใจ
บาร์นีเยซึ่งเป็นฝ่ายขวาและอดีตผู้เจรจาของสหภาพยุโรปเกี่ยวกับเบร็กซิต ถูกพบเห็นในช่วงกลางวันของวันพฤหัสบดีหลังจากการเจรจากับมาครงที่พระราชวังเอลิเซ เพื่อกลับมาทำงานการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
เขาแทบจะหายตัวไปจากชีวิตการเมืองของฝรั่งเศสตั้งแต่ล้มเหลวในการเสนอชื่อจากพรรครีพับลิกันเพื่อท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2565
อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศและกรรมาธิการสหภาพยุโรปผู้มากประสบการณ์รายนี้มีแนวทางการทำงานสอดคล้องกับมาครง และจะไม่ถูกรัฐสภาโหวตออกทันที ตามความเห็นของนักวิเคราะห์การเมือง
อดีตรัฐมนตรีรายหนึ่งจากรัฐบาลก่อนหน้ากล่าวว่า บาร์นีเยได้รับความนิยมอย่างมากจากสมาชิกรัฐสภาฝ่ายขวา และไม่ได้เป็นปรปักษ์กับฝ่ายซ้าย
ดูเหมือนว่ามาครงจะหวังพึ่งพรรครณรงค์แห่งชาติ (National Rally หรือ Rassemblement National) ของมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี 3 สมัย ว่าจะไม่โค่นล้มบาร์นีเย หากมีการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ
"เราจะรอฟังคำปราศรัยนโยบายต่อรัฐสภาของบาร์นีเย" เลอเปน หัวหน้าพรรครณรงค์แห่งชาติซึ่งเป็นพรรคที่มีที่นั่งมากที่สุดในสภาล่างกล่าวถึงนายกรัฐมนตรีคนใหม่
เช่นเดียวกัน คณะรัฐมนตรีชุดใหม่จะถูกจับตามองอย่างใกล้ชิดว่ามีสัญญาณการประนีประนอมกับศัตรูทางการเมืองของมาครงหรือไม่
การตัดสินใจของมาครงเกิดขึ้นท่ามกลางเส้นตายในการส่งร่างงบประมาณปี 2568 สำหรับการคลังของรัฐบาลฝรั่งเศสที่ตึงตัวก่อนวันที่ 1 ตุลาคม
การเลือกตั้งในเดือนกรกฎาคมทำให้มาครงสูญเสียเสียงข้างมากในรัฐสภา และประธานาธิบดีสายกลางคนนี้ได้ยืดเวลาการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ออกไปในช่วงเวลาที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอาศัยช่วงเวลาการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมที่ผ่านมา.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มาครง และเนทันยาฮู ปะทะกันหลังเจ้าหน้าที่รักษาสันติภาพถูกโจมตีในเลบานอน
กองทัพอิสราเอลโจมตีฐานที่ตั้งของกองกำลัง ‘หมวกสีฟ้า’ ในเลบานอนหลายครั้ง ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่ง
ซีรีส์ดัง 'Emily in Paris' ได้นักแสดงรับเชิญระดับภริยาประธานาธิบดี
บริจิตต์ มาครง ภริยาของประธานาธิบดีแห่งฝรั่งเศส ผละออกจากคอมฟอร์ตโซนชั่วคราว เพื่อเข้าสู่ดินแดนที่เธอไม่คุ้นเคย นั่นคือแวดวงบันเทิง โดยเธ
พันธมิตรฝ่ายซ้ายในฝรั่งเศสเสนอ ‘ลูซี กาสเต็ทส์’ ลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
ผู้ชนะการเลือกตั้งรัฐสภาช่วงต้นในฝรั่งเศสตัดสินใจเลือก ลูซี กาสเต็ทส์ เป็นหัวหน้ารัฐบาลในอนาคต แต่ประธา