ประชาชนเดินขบวนประท้วงรัฐบาล หลังทราบเหตุตัวประกันอิสราเอลตายเพิ่มอีก 6 ราย ส่งผลการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาหยุดชะงักอีกครั้ง
ญาติและผู้สนับสนุนของตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกจับไปกักขังในฉนวนกาซาตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมโดยกลุ่มฮามาส ถือภาพของเฮิร์ช โกลด์เบิร์ก-โพลิน (ซ้าย), อัลม็อก ซารูซี (กลาง) และอเล็กซานเดอร์ โลบานอฟ ขณะชุมนุมประท้วงนอกสำนักงานนายกรัฐมนตรีในเยรูซาเล็ม เมื่อวันที่ 1 กันยายน (Photo by AHMAD GHARABLI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 2 กันยายน 2567 กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลประกาศพบศพของตัวประกัน 6 รายซึ่งถูกจับได้ขณะยังมีชีวิตอยู่ระหว่างการโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม โดยร่างทั้งหมดถูกนำขึ้นมาจากอุโมงค์ในฉนวนกาซาตอนใต้ ส่งผลให้เกิดความโศกเศร้าและความโกรธแค้นอย่างมากมายในหมู่ประชาชนอิสราเอล
ในเวลาต่อมา กระทรวงสาธารณสุขของอิสราเอลแถลงว่า ผลการชันสูตรพลิกศพพบว่าทั้ง 6 คนถูกสังหารด้วยอาวุธปืนในระยะใกล้หลายครั้ง ก่อนที่ทหารจะพบตัวพวกเขาไม่นาน
จากเหตุดังกล่าว ญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตและประชาชนอิสราเอลจำนวนมากกล่าวหารัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูว่าไม่ได้จริงจังมากพอกับภารกิจนำตัวประกันกลับมาอย่างปลอดภัย และระหว่างการรวมตัวชุมนุมใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ ได้มีการเรียกร้องให้ทำข้อตกลงสงบศึกเพื่อช่วยเหลือตัวประกันหลายสิบรายที่ยังถูกจับ
เพื่อเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อรัฐบาล สหภาพแรงงานฮิสตาดรุตเรียกร้องให้มีการหยุดงานทั่วประเทศซึ่งจะเริ่มขึ้นในเวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยต้องการให้มีการนำตัวประกันที่เหลืออีก 97 คนกลับประเทศ รวมทั้ง 33 รายที่กองทัพระบุว่าเสียชีวิตแล้ว
เมืองใหญ่หลายแห่งทั่วอิสราเอลเข้าร่วมการหยุดงานครั้งนี้ โดยประกาศปิดโรงเรียนและบริการเทศบาลเป็นเวลาหลายชั่วโมง และแม้ว่าสนามบินนานาชาติเบน กูเรียน ใกล้กรุงเทลอาวีฟยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่กระบวนการบินขึ้น-ลงถูกระงับเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
ขณะที่บริษัทเอกชนบางแห่ง เช่น ผู้ให้บริการขนส่งสาธารณะ ได้ระงับการดำเนินการบางส่วนเพื่อสนับสนุนการหยุดงาน ในเยรูซาเล็มและเมืองอื่นๆ
การหยุดงานดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่มีการประท้วงครั้งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งมีผู้คนนับหมื่นออกมาเดินขบวนปิดกั้นท้องถนนในเทลอาวีฟและเมืองอื่นๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลหลายครั้งในช่วงสงคราม
อาร์นอน บาร์-เดวิด หัวหน้าสหภาพแรงงานฮิสตาดรุตกล่าวว่าเขาต้องการให้รัฐบาลหยุดการทอดทิ้งตัวประกัน และเสริมว่าการแทรกแซงของประชาชนเท่านั้นที่จะกดดันกลุ่มผู้มีอำนาจตัดสินใจระดับสูงของอิสราเอลที่ต่อต้านการสงบศึกหรือทำให้การเจรจาหยุดชะงักมานานหลายเดือน
จากตัวประกัน 251 คนที่ถูกจับระหว่างการโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม มีเพียง 8 คนเท่านั้นที่ได้รับการช่วยเหลือโดยกองกำลังอิสราเอล แต่มีผู้ที่ถูกปล่อยตัวจำนวนมากในช่วงสงบศึกหนึ่งสัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นครั้งเดียวจนถึงขณะนี้
ความพยายามไกล่เกลี่ยที่นำโดยสหรัฐอเมริกา, กาตาร์ และอียิปต์ตั้งแต่นั้นมา หยุดชะงักซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ มีกำหนดจะประชุมกับคณะเจรจาของเขาในเวลาต่อมาในวันจันทร์ เพื่อหารือถึงความพยายามในการผลักดันไปสู่ข้อตกลงเพื่อการปล่อยตัวตัวประกันที่เหลือ หลังเหตุสังหารตัวประกันทั้ง 6 ราย ซึ่งรวมถึงเฮิร์ช โกลด์เบิร์ก-โพลิน ตัวประกันชาวอเมริกัน-อิสราเอล
อิสราเอลระบุชื่อตัวประกันที่เสียชีวิตอีก 5 คน ได้แก่ คาร์เมล เกต, เอเดน เยรูชัลมี, อัลม็อก ซารูซี, โอรี ดานิโน และอเล็กซานเดอร์ โลบานอฟ ซึ่งเป็นชาวรัสเซีย-อิสราเอล
ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ฉนวนกาซาที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มฮามาส เจ้าหน้าที่กู้ภัยฝ่ายพลเรือนเปิดเผยว่าการโจมตีของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 11 รายในโรงเรียนที่กองทหารอิสราเอลระบุว่าเป็นศูนย์บัญชาการของกลุ่มฮามาส
การสู้รบยังคงดำเนินต่อไปในวันจันทร์ ซึ่งตรงกับวันที่สองของการหยุดเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ เพื่ออำนวยความสะดวกในการระดมฉีดวัคซีน หลังจากพบผู้ป่วยโรคโปลิโอรายแรกในรอบ 25 ปี ซึ่งสหประชาชาติกล่าวว่าเด็กๆ 87,000 คนได้รับวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอโดสแรกแล้วในวันอาทิตย์ที่ใจกลางกาซา
สหประชาชาติเรียกการระดมฉีดวัคซีนนี้ว่าเป็น การแข่งขันกับเวลาเพื่อให้เข้าถึงเด็กๆ กว่า 600,000 คน ในพื้นที่ที่ถูกสงครามฉีกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย และเพื่อให้ภารกิจเร่งด่วนครั้งนี้ประสบผลสำเร็จ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องเคารพการหยุดรบชั่วคราวในพื้นที่
ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่ามีการโจมตีทางอากาศในช่วงค่ำคืน และหน่วยงานป้องกันพลเรือนกล่าวว่ามีการยิงกระสุนปืนใหญ่ถล่มเมืองกาซาซิตี ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 2 รายจากขีปนาวุธที่ยิงถล่มอาคารพักอาศัย
จนถึงขณะนี้ การโจมตีทางทหารของอิสราเอลเพื่อกำจัดกลุ่มฮามาสได้สังหารผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 40,738 รายในฉนวนกาซา ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก
ขณะที่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่จุดชนวนให้เกิดสงครามครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,205 รายในอิสราเอล โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือนและรวมถึงตัวประกันที่เสียชีวิตระหว่างถูกจับตัวไปกักขัง
สงครามได้ส่งผลให้ความตึงเครียดในภูมิภาคเพิ่มสูงขึ้น โดยความรุนแรงได้เพิ่มขึ้นในเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกอิสราเอลยึดครองด้วยเช่นกัน
มีชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 24 รายเสียชีวิตตั้งแต่ที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีพร้อมกันในเขตเวสต์แบงก์ทางตอนเหนือและตอนใต้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกลุ่มก่อการร้ายอ้างว่าผู้เสียชีวิต 14 รายเป็นสมาชิกในกลุ่ม ขณะที่อิสราเอลระบุว่าสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 นาย
รัฐบาลชาติตะวันออกกลางและชาติตะวันตก รวมถึงเจ้าหน้าที่สหประชาชาติเรียกร้องให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการทางทหารเต็มรูปแบบในเวสต์แบงก์ซึ่งอิสราเอลยึดครองมาตั้งแต่ปี 2510.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ฝนและความหนาวเย็นทำให้สถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นและตัวประกันในฉนวนกาซารุนแรงขึ้น
ชาวปาเลสไตน์ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นตั้งแต่เริ่มสงคราม ขณะนี้พวกเขากำลังเผชิญกับภาว