เขื่อนแตก-น้ำท่วม เสียชีวิตอย่างน้อย 30 รายในซูดาน

สำนักงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 รายในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของซูดาน หลังเขื่อนพังถล่มจนน้ำท่วมเมือง

ชายชาวซูดานกำลังเดินอยู่บนถนนที่ถูกน้ำท่วมในเมืองตังกาซี ในจังหวัดเมโรอีของซูดาน ห่างจากกรุงคาร์ทูมไปทางเหนือประมาณ 300 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า ประเทศซูดานซึ่งได้รับผลกระทบจากสงคราม เผชิญกับฤดูฝนที่รุนแรงมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยเกิดน้ำท่วมหนักเป็นระยะๆ ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออก

ล่าสุด สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) อ้างคำกล่าวของคณะผู้แทนรัฐบาลที่รายงานว่าเขื่อนอาร์บาตพังเสียหายเมื่อวันอาทิตย์ จนทำให้น้ำทะลักเข้าท่วมพื้นที่เมืองและชุมชน

มีรายงานยืนยันแล้วว่ามีผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 30 ราย พร้อมผู้สูญหายหรือพลัดถิ่นฐานจำนวนมาก

เขื่อนอาร์บาตตั้งอยู่ห่างจากเมืองพอร์ตซูดานไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 38 กิโลเมตร โดยสำนักงานฯเปิดเผยว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ทางตะวันตกของเขื่อนได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงมากถึง 50,000 คน

"มีรายงานว่าหมู่บ้านประมาณ 70 แห่งรอบเขื่อนอาร์บาตได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมฉับพลัน และหมู่บ้าน 20 แห่งได้รับความเสียหาย" สำนักงานฯกล่าว

กระทรวงสาธารณสุขของซูดานกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ตั้งแต่ต้นปีมีผู้เสียชีวิต 132 รายจากภาวะน้ำท่วมและฝนตกหนักใน 10 รัฐ โดยรายงานน้ำท่วมหนักที่สุดอยู่ในรัฐทางตอนเหนือและพื้นที่รอบแม่น้ำไนล์

ทั้งนี้ ซูดานตกอยู่ในภาวะวิกฤตจากการสู้รบที่ปะทุขึ้นในเดือนเมษายน 2566 ระหว่างกองทัพที่นำโดยอับเดล ฟัตตาห์ อัล-บูร์ฮาน ผู้ปกครองโดยพฤตินัย และกองกำลังกึ่งทหารของซูดาน (RSF) ที่นำโดยโมฮัมเหม็ด ฮัมดาน ดาโกล อดีตรองประธานาธิบดี

ทั้งสองฝ่ายถูกกล่าวหาว่ากระทำทารุณและละเมิดกฎหมาย รวมทั้งขัดขวางการส่งมอบความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งให้กับผู้คนในประเทศ ซึ่งบางส่วนได้รับผลกระทบจากภาวะอดอยาก

โครงสร้างพื้นฐานของประเทศที่ยากจนซึ่งเปราะบางอยู่แล้วก่อนสงคราม ถูกทำลายล้างแทบหมดสิ้น โดยทั้งสองฝ่ายถูกกล่าวหาว่าโจมตีสิ่งอำนวยความสะดวกของพลเรือน และการสู้รบอย่างต่อเนื่องก็เป็นอุปสรรคต่อการซ่อมแซมและบำรุงรักษา.