อินโดนีเซียยกเลิกแผนเปลี่ยนแปลงกฎการเลือกตั้ง หลังประชาชนลุกฮือประท้วง

รัฐสภาอินโดนีเซียยกเลิกแผนการเปลี่ยนแปลงกฎการเลือกตั้งที่ก่อให้เกิดข้อโต้แย้ง หลังจากประชาชนหลายพันคนออกมาชุมนุมรุนแรงในกรุงจาการ์ตาเพื่อประณามความพยายามส่งต่ออำนาจทางการเมืองของโจโก วิโดโด

ผู้ประท้วงขว้างก้อนหินใส่ตำรวจในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ระหว่างการชุมนุมต่อต้านความเคลื่อนไหวในการเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์คุณสมบัติของผู้สมัครในการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปีนี้ (Photo by TIMUR MATAHARI / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาอินโดนีเซียกำลังผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญที่ยืนยันข้อกำหนดอายุของผู้สมัครทางการเมืองซึ่งจะทำให้บุตรชายคนเล็กของประธานาธิบดีโจโก วิโดโด หมดสิทธิ์เข้าร่วมการเลือกตั้งระดับภูมิภาคที่จะมีขึ้นในเร็วๆ นี้

แต่ประชาชนหลายพันคนออกมาชุมนุมต่อต้านประเด็นดังกล่าวด้านนอกรัฐสภา ทำให้บรรดาสมาชิกต้องเลื่อนการประชุมออกไปก่อน ขณะที่การประท้วงทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ตลอดทั้งวัน โดยมีกลุ่มนักศึกษาและพนักงานออฟฟิศเข้าร่วมเป็นแกนหลักอย่างไม่หวั่นไหวต่อรถฉีดน้ำแรงดันสูงและตำรวจปราบจลาจล

ในเวลาต่อมา รัฐสภาประกาศว่าจะยกเลิกการเปลี่ยนแปลงที่เสนอในช่วงการเลือกตั้งครั้งนี้ ถือเป็นการกลับลำอย่างรวดเร็วเพื่อไม่ให้เกิดความรุนแรงบานปลาย

"มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการแล้วว่าการแก้ไขกฎหมายการเลือกตั้งระดับภูมิภาคไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งหมายความว่าการประชุมแก้ไขในวันนี้ถูกยกเลิก" ซุฟมี ดาสโก อาหมัด รองประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวกับผู้สื่อข่าว หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วงและตำรวจ

ผู้ประท้วงจุดไฟเผายางรถยนต์และจุดประทัดพร้อมตะโกนข้อความต่อต้านวิโดโด โดยผู้ประท้วงจำนวนหนึ่งรื้อแท่งคอนกรีตและรั้วเหล็กบางส่วนที่ล้อมรอบรัฐสภาและพยายามบุกเข้าไปในอาคาร แต่ตำรวจได้สลายการชุมนุมด้วยปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและแก๊สน้ำตา

"ผมมาที่นี่เพราะประเทศใกล้จะพังทลายแล้ว นักกฎหมายเหล่านี้ไม่เห็นหัวประชาชน" มูฮัมหมัด ซาเลห์ ซาคาเรีย ผู้ประท้วงวัย 64 ปี กล่าวกับเอเอฟพี

ในช่วงค่ำ ผู้ประท้วงบางส่วนยังคงจุดไฟเผาหน้ารัฐสภาและพยายามฝ่ารั้วเข้าไป โดยนอกจากพื้นที่เมืองหลวงแล้ว ยังมีรายงานการประท้วงในยอกยาการ์ตา, มาคาสซาร์, บันดุง และเซอมารังด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ ความวุ่นวายดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งแต่หลายเดือนก่อน หลังจากที่จิบราน รากาบูมิง รากา วัย 36 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของโจโก วิโดโด ได้รับเลือกให้เป็นรองประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดของอินโดนีเซียหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนเมษายน ท่ามกลางข้อครหาเรื่องการใช้เส้นสายและอิทธิพลของประธานาธิบดีผู้เป็นพ่อที่กำลังจะก้าวลงจากตำแหน่ง

แคซัง ปังกาเรป ลูกชายคนเล็กวัย 29 ปี คือสมาชิกครอบครัววิโดโดรายต่อไปที่เตรียมตัวดำรงตำแหน่งในการเลือกตั้งระดับภูมิภาคเดือนพฤศจิกายน

บรรดาพันธมิตรของประธานาธิบดีวิโดโดพยายามช่วยเหลือให้แคซังสามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ด้วยการหาช่องทางแก้ไขอายุขั้นต่ำสำหรับผู้สมัครรับเลือกตั้งซึ่งคือ 30 ปี โดยจะกำหนดให้มีผลบังคับใช้ภายในเวลาเข้ารับตำแหน่งเท่านั้น ซึ่งประจวบเหมาะกับการที่แคซังจะมีอายุครบ 30 ปีบริบูรณ์ในเดือนธันวาคมพอดี

นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า ชาวอินโดนีเซียเริ่มผิดหวังในตัวโจโก วิโดโด และความพยายามของเขาที่จะรักษาอิทธิพลทางการเมืองไว้

"ประชาชนกำลังโกรธแค้นต่อการจัดการระบอบประชาธิปไตยของอินโดนีเซีย ซึ่งเห็นได้ชัดว่ามีความพยายามที่จะส่งต่ออำนาจในตระกูลการเมือง" อิกา อิดริส ผู้เชี่ยวชาญด้านการเมืองจากศูนย์วิจัยข้อมูลและประชาธิปไตยของมหาวิทยาลัยโมนาชกล่าว

ไม่เพียงแต่ครอบครัวตัวเองเท่านั้น โจโก วิโดโดยังถูกกล่าวหาว่าช่วยผลักดันปราโบโว ซูเบียนโต จนได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไปในฐานะพรรคพวก แถมยังส่งลูกชายคนโตไปประกบในตำแหน่งที่หวังผลใหญ่ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป.

เพิ่มเพื่อน