สหรัฐและเกาหลีใต้เริ่มการซ้อมรบร่วมครั้งใหญ่ประจำปี

สหรัฐฯและเกาหลีใต้เริ่มการซ้อมรบร่วมประจำปีครั้งใหญ่ เพื่อแสดงพลังในการป้องปรามเกาหลีเหนือซึ่งมีอาวุธนิวเคลียร์ รวมถึงการต่อสู้กับการโจมตีทางไซเบอร์

ผู้ประท้วงชาวเกาหลีใต้ถือป้ายที่มีข้อความว่า "หยุดการซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้" ขณะเข้าร่วมการชุมนุมต่อต้านการซ้อมรบร่วม "Ulchi Freedom Shield" บริเวณหน้าสำนักงานประธานาธิบดีในกรุงโซล เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม (Photo by ANTHONY WALLACE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า สหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เริ่มการซ้อมรบร่วมประจำปีครั้งใหญ่ที่มีชื่อว่า "Ulchi Freedom Shield 2024" ซึ่งจะดำเนินไปจนถึงวันที่ 29 สิงหาคม โดยในปีนี้การซ้อมรบจะมุ่งสะท้อนถึงภัยคุกคามที่สมจริงในทุกด้าน รวมถึงจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือและการรบกวนระบบระบุตำแหน่งบนพื้นโลก หรือ GPS 

เสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้กล่าวว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพและท่าทีของพันธมิตรในการยับยั้งและป้องกันอาวุธทำลายล้างสูง

การซ้อมรบในปีนี้จะมีทหารเกาหลีใต้ประมาณ 19,000 นายเข้าร่วมทั้งทางบก, ทางทะเล และทางอากาศ รวมถึงทางไซเบอร์และอวกาศ ตามข้อมูลของกระทรวงกลาโหม ซึ่งปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับรายละเอียดการเข้าร่วมของสหรัฐฯ

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลเปียงยางได้ปล่อยบอลลูนขนขยะข้ามชายแดนหลายพันลูกเข้ามายังดินแดนเกาหลีใต้ และพยายามรบกวนสัญญาณ GPS ของเกาหลีใต้ เพื่อเป็นการเอาคืนบอลลูนโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านรัฐบาลที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวในเกาหลีใต้ส่งไปทางดินแดนฝั่งเหนือ

ในกรุงโซล รัฐบาลจะจัดการฝึกซ้อมป้องกันด้านพลเรือนควบคู่กันไปด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับบอลลูนขยะที่อาจเกิดขึ้นอีกในอนาคต รวมถึงการโจมตีด้วยโดรนของเกาหลีเหนือ

ประธานาธิบดียุน ซ็อก-ยอล ของเกาหลีใต้กล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันจันทร์ว่า "ขณะนี้ เรากำลังเผชิญกับการยั่วยุและภัยคุกคามที่ไร้เหตุผลและบ้าบิ่นที่สุดในโลกจากเกาหลีเหนือ"

"ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา พวกเขาไม่ลังเลที่จะโจมตีด้วยการรบกวน GPS และยั่วยุในระดับต่ำ เช่น การส่งบอลลูนขยะ" ผู้นำเกาหลีใต้กล่าว

ทั้งนี้ การซ้อมรบระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้มักจะทำให้เกาหลีเหนือโกรธเคือง เนื่องจากเกาหลีเหนือมองว่าการซ้อมรบเป็นการซ้อมรุกราน และมักจะทดสอบอาวุธเพื่อตอบโต้การกระทำดังกล่าว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา สื่อของเกาหลีเหนือได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์การซ้อมรบครั้งนี้ โดยใช้คำว่า "อันตรายและร้ายแรง"

เมื่อปีที่แล้ว สื่อของเกาหลีเหนือได้เตือนว่าการซ้อมรบดังกล่าวอาจกระตุ้นให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ โดยอาจมีการยิงขีปนาวุธร่อนและขีปนาวุธพิสัยไกลหลายลูกเพื่อเป็นการประท้วง

คิม มย็องซู หัวหน้าคณะเสนาธิการทหารร่วมของเกาหลีใต้กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า รัฐบาลเปียงยางมีแนวโน้มที่จะใช้การซ้อมรบเป็นข้ออ้างในการยั่วยุและทดสอบอาวุธ โดยคิมจองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือออกคำสั่งให้ทหารเฝ้าติดตามและวิเคราะห์กิจกรรมในเขตปลอดทหารอย่างใกล้ชิด และให้ทำการตอบโต้ได้ทันทีหากศัตรูยั่วยุ

รัฐบาลวอชิงตันเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงที่สำคัญของรัฐบาลโซล และมีทหารประมาณ 28,500 นายประจำการอยู่ในเกาหลีใต้เพื่อปกป้องประเทศแห่งนี้จากเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์ และทั้งสองประเทศได้จัดการซ้อมรบร่วมกันมาเป็นเวลานานแล้ว.

เพิ่มเพื่อน