ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ปรับคณะรัฐมนตรีทิ้งทวนก่อนลงจากตำแหน่ง เพื่อบรรเทาภาระการเปลี่ยนผ่านของประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนใหม่
สุพรัตมัน อันดี อักตัส รัฐมนตรีกฎหมายและสิทธิมนุษยชนคนใหม่ของอินโดนีเซีย (กลาง) จับมือกับประธานาธิบดีโจโก วิโดโด (ขวา) ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงจาการ์ตา เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม (Photo by Yasuyoshi CHIBA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียปรับคณะรัฐมนตรีทิ้งทวนก่อนก้าวลงจากตำแหน่งในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อบรรเทาภาระการเปลี่ยนผ่านให้กับปราโบโว ซูเบียนโต ซึ่งจะเข้ามาสืบทอดในฐานะผู้นำคนใหม่
วิโดโดจะส่งมอบอำนาจในเดือนตุลาคม เป็นการอำลาตำแหน่งผู้นำที่ได้รับความนิยมสูงลิ่วจากผลงานทางเศรษฐกิจที่ส่งผลให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างต่อเนื่องหลังจากการระบาดของโควิด-19
ในพิธีแต่งตั้ง เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐมนตรีกฎหมายและสิทธิมนุษยชน, รัฐมนตรีพลังงานและทรัพยากรแร่ธาตุ และรัฐมนตรีการลงทุน รวมถึงผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาและหัวหน้าสำนักงานโภชนาการแห่งชาติที่เพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่
บาห์ลิล ลาฮาดาเลีย อดีตรัฐมนตรีการลงทุนซึ่งเป็นผู้ช่วยใกล้ชิดและผู้สนับสนุนวิโดโด ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีพลังงานและทรัพยากรแร่ธาตุ เนื่องจากผู้นำอินโดนีเซียต้องการวางรากฐานในการเพิ่มผลผลิตนิกเกิล
โรซาน โรเอสลานี ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีให้กับปราโบโว ซูเบียนโต ได้เข้ามาแทนที่ลาฮาดาเลียในตำแหน่งรัฐมนตรีการลงทุนคนใหม่ของประเทศ ขณะที่สุพรัตมัน อันดี อักตัส สมาชิกพรรคเกรินทราของปราโบโว ซูเบียนโต ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกฎหมายและสิทธิมนุษยชน
อารี ดวิปายานา ผู้ประสานงานคณะทำงานพิเศษของประธานาธิบดี กล่าวในแถลงการณ์ว่า "การแต่งตั้งรัฐมนตรีเหล่านี้และหัวหน้าหน่วยงาน มีความจำเป็นเพื่ออำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลอย่างราบรื่น, เป็นระเบียบ และมีประสิทธิผล"
ขณะที่สำนักงานโภชนาการแห่งชาติได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือตามคำมั่นสัญญาสำคัญในการรณรงค์หาเสียงของซูเบียนโต ซึ่งก็คือการจัดสรรอาหารฟรีให้กับเด็กนักเรียน
ยูนาร์โต วิจายา ผู้อำนวยการบริหารของสถาบันวิจัย Charta Politika กล่าวว่า รัฐมนตรีใหม่เหล่านี้ล้วนเป็น "คนของปราโบโว ซูเบียนโต" ซึ่งได้รับการอนุมัติจากวิโดโด
"น่าจะมีนัยทางการเมืองแฝงอยู่ นอกเหนือจากจุดประสงค์ในการเปลี่ยนผ่าน" เขากล่าว
ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งสุดท้ายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โจโก วิโดโดได้ชื่นชมผลงานของรัฐบาลในด้านเศรษฐกิจ, การพัฒนา และการสร้างโครงสร้างพื้นฐาน
เขาดำรงตำแหน่งครบสองวาระติดต่อกันเป็นเวลาหนึ่งทศวรรษ หลังจากเอาชนะปราโบโว ซูเบียนโตได้สองครั้ง ในการเลือกตั้งปี 2557 และ 2562
ซูเบียนโตได้รับชัยชนะครั้งล่าสุดโดยได้บุตรชายคนโตของโจโก วิโดโดร่วมลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ซึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้เส้นสาย
เขามีคะแนนนิยมพุ่งสูงขึ้นจากการสนับสนุนของวิโดโดและลูกหลานของเขา รวมถึงการให้คำมั่นว่าจะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบประชานิยมต่อไป
เหลือเพียงโครงการสำคัญที่วิโดโดทิ้งไว้ คือโครงการลงทุนในอนาคตมูลค่า 32,000 ล้านดอลลาร์บนเกาะบอร์เนียว ที่ยังคงประสบปัญหาความล่าช้าในการก่อสร้างและปัญหาการจัดหาเงินทุน ซึ่งซูเบียนโตต้องแสดงความสามารถในการทำให้สำเร็จเพื่อให้ได้รับการยอมรับในฐานะผู้นำอย่างเต็มภาคภูมิ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'พีระพันธุ์-เอกนัฏ' ถกโผ รทสช. สะพัด 'สุชาติ' กรอกคุณสมบัติแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 15.45 น. นายเอกนัฎ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เดินทางเข้าพบ นายพีระพันธุ์ สา
'อนุทิน' ตอกย้ำภูมิใจไทยไม่มีเปลี่ยนแปลงเก้าอี้
'อนุทิน' ย้ำภูมิใจไทยขออยู่ที่เดิม บอกกระทรวงมหาดไทยตอนนี้ทำงานเข้าขากันดี