สวีเดนพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงรายแรกนอกทวีปแอฟริกา หลังจากองค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับประเทศ
สำนักงานศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) ในเมืองโซลนา ใกล้กับกรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน (Photo by Jonathan NACKSTRAND / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 16 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า หน่วยงานสาธารณสุขของสวีเดนยืนยันการตรวจพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง (Mpox) สายพันธุ์เดียวกับที่ระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 ซึ่งรู้จักกันในชื่อสายพันธุ์ clade 1b (เคลท 1บี)
หน่วยงานดังกล่าวระบุในแถลงการณ์ว่า "ผู้ป่วยรายหนึ่งที่เข้ารับการรักษาในสตอกโฮล์มได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ clade 1b โดยเป็นผู้ป่วยรายแรกที่ติดเชื้อด้วยสายพันธุ์ดังกล่าวนอกทวีปแอฟริกา"
นักระบาดวิทยาของสวีเดนกล่าวในแถลงการณ์ว่า ผู้ป่วยรายนี้ติดเชื้อระหว่างการเดินทางเยือนส่วนหนึ่งของแอฟริกาที่มีการระบาดครั้งใหญ่ของไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ clade 1b
หน่วยงานฯ เสริมว่า ผู้ป่วยเข้าสู่กระบวนการการรักษาแล้ว โดยสวีเดนมีความพร้อมในการวินิจฉัย, แยกตัว และรักษาผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าวอย่างมีมาตรฐาน
"การที่ผู้ป่วยด้วยโรคฝีดาษลิงได้รับการรักษาในประเทศไม่ได้ส่งผลด้านความเสี่ยงต่อประชากรทั่วไป ซึ่งปัจจุบันศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป (ECDC) ถือว่าความเสี่ยงนั้นต่ำมาก" หน่วยงานฯ กล่าว
ทั้งนี้ การระบาดในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกทำให้มีผู้เสียชีวิต 548 รายนับตั้งแต่ต้นปี
องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศให้การระบาดของโรคฝีดาษลิงในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกและประเทศเพื่อนบ้านเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขที่มีความน่ากังวลระดับประเทศเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
ไวรัสชนิดนี้ถูกค้นพบครั้งแรกในมนุษย์เมื่อปี 2513 ในพื้นที่ที่ปัจจุบันคือสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก
ฝีดาษลิงเป็นโรคติดเชื้อจากไวรัสที่แพร่สู่คนผ่านทางสัตว์ที่ติดเชื้อ และยังสามารถแพร่จากคนสู่คนได้โดยการสัมผัสทางกายภาพอย่างใกล้ชิด
โรคนี้ทำให้เกิดไข้, ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ และมีตุ่มน้ำขนาดใหญ่บนผิวหนัง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'หมอธีระ' แนะเมืองท่องเที่ยวตะหนักเรื่องฝีดาษลิง!
'หมอธีระ' เผยฝีดาษลิงในไทยโผล่พรึ่บในจังหวัดที่มีประชากรหนาแน่น หรือเมืองท่องเที่ยว แนะรัฐจับมือเอกชนต้องจับมือสร้างความร็ร่วมกันก่อนจะระบาดหนัก!
‘หมอธีระ’ เตือนรัฐบาลเร่งขันน็อต ’ฝีดาษลิง’ ดึงสถานประกอบการ-ประชาสังคมร่วมมือ
หากอุตสาหกรรมบริการและท่องเที่ยวเป็นหัวใจในการหาเงินเข้าประเทศ รัฐบาลควรเร่งขันน็อตเรื่องการควบคุมป้องกัน เพราะลำพังรัฐคงทำไม่ได้