หัวหน้าคณะทหารเมียนมาและรัฐมนตรีต่างประเทศจีนหารือเรื่องความมั่นคงตามแนวชายแดนที่กลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยยึดครองฐานที่มั่นของกองทัพได้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
มิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะทหารเมียนมา (ขวา) พบปะหารือกับหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ในกรุงเนปยีดอ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม (Photo by MYANMAR MILITARY INFORMATION TEAM / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 14 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีนเดินทางเยือนกรุงเนปยีดอของเมียนมา และได้พบปะหารือกับมิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะทหารเมียนมาที่ยึดอำนาจจากรัฐบาลของอองซานซูจีในปี 2564
การพบกันเป็นครั้งแรกของบุคคลทั้งสองมุ่งเน้นไปที่เรื่องเสถียรภาพของพื้นที่ชายแดน และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างเปิดเผยเกี่ยวกับการเลือกตั้งทั่วไปแบบหลายพรรคที่เสรีและยุติธรรมในเมียนมา ตามรายงานการประชุมของคณะทหาร
กองทัพฯได้ให้คำมั่นว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ แต่บรรดานักวิจารณ์เชื่อว่าเป็นแค่การหลอกซื้อเวลาไปเรื่อยๆของรัฐบาลเผด็จการ
คณะรัฐประหารเมียนมาได้เลื่อนกำหนดการเลือกตั้งหลายครั้ง และเมื่อปีที่แล้วได้สั่งยุบพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) ของซูจี ซึ่งเป็นพรรคที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และล่าสุดเพิ่งประกาศขยายเวลาภาวะฉุกเฉินต่ออีก 6 เดือน พร้อมเลื่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่สัญญาว่าจะจัดขึ้นออกไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังมีภารกิจพัวพันในการต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร
จีนเป็นทั้งพันธมิตรและซัพพลายเออร์อาวุธให้กับคณะทหาร แต่บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่าจีนยังคงรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่ต่อสู้กับกองทัพในรัฐฉานทางตอนเหนือของเมียนมาอีกด้วย
รัฐฉานตอนเหนือของเมียนมาเป็นพื้นที่ที่เกิดการปะทะกันหลายครั้งตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน หลังจากพันธมิตรกลุ่มกบฏชาติพันธุ์ได้กลับมาเปิดฉากโจมตีกองทัพอีกครั้งบนเส้นทางการค้าสำคัญไปยังจีน
ทั้งนี้ รัฐฉานมีพรมแดนติดกับมณฑลยูนนานของจีน และเป็นส่วนสำคัญของโครงการริเริ่มโครงสร้างพื้นฐานสายแถบและเส้นทางของรัฐบาลปักกิ่ง
การปะทะกันระหว่างกองทัพและกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในรัฐฉานยังคงดำเนินต่อไปในวันพุธ โดยนักรบของกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) กำลังต่อสู้กับกองทหารของรัฐในเมืองสีปอว์และเนืองโช
เมื่อช่วงต้นเดือน นักรบของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) ได้ยึดกองบัญชาการภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกองทัพในเมืองล่าเสี้ยวซึ่งมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 150,000 คน
และเมื่อไม่นานมานี้ มิน อ่อง หล่ายเคยกล่าวไว้ว่า คณะรัฐประหารได้รับอาวุธต่างๆ รวมถึงโดรนและขีปนาวุธพิสัยใกล้จากแหล่งต่างประเทศที่เขาไม่ได้เปิดเผยชื่อ และใช้อาวุธเหล่านั้นในการโจมตีกลุ่มกบฏฯ จนพลเรือนเสียชีวิตหลายสิบรายและได้รับบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง ตามรายงานของคณะรัฐประหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยในพื้นที่.