นักดับเพลิงสหภาพยุโรปจะเข้าร่วมช่วยกรีซในเหตุไฟป่ารุนแรง

กรีซต้องต่อสู้กับไฟป่าครั้งใหญ่ใกล้กรุงเอเธนส์เป็นวันที่สามแล้ว โดยนักดับเพลิงจากยุโรปหลายร้อยคนจะเข้าร่วมในความพยายามควบคุมไฟป่าที่กำลังเผาผลาญพื้นที่ชานเมืองของเมืองหลวง

แนวไฟป่าบนเนินเขาในเมืองวาร์นาวาส ทางตอนเหนือของกรุงเอเธนส์ เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม ประเทศกรีซกำลังต่อสู้กับไฟป่าหลายแห่ง โดยควันปกคลุมเมืองหลวงบางส่วน ท่ามกลางคำเตือนถึงสภาพอากาศเลวร้ายตลอดสัปดาห์ที่เหลือ (Photo by Angelos TZORTZINIS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า ไฟป่าในกรีซใกล้กรุงเอเธนส์กำลังลุกลามอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่สาม โดยสหภาพยุโรปเตรียมส่งเจ้าหน้าที่มาช่วยสกัดกั้นอย่างเต็มที่

ไฟป่าที่เลวร้ายที่สุดของกรีซในปีนี้เกิดจากลมแรงที่โหมกระหน่ำ ซึ่งทำให้ผู้คนหลายพันคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน เนื่องจากไฟได้สร้างความหายนะไปทั่วบริเวณเมืองหลวงของกรีซ

มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 66 คน รวมทั้งนักดับเพลิง 2 นาย

"ตอนนี้สถานการณ์ดีขึ้นแล้ว" คอสตาส ซิกกาส หัวหน้าสมาคมนักดับเพลิงของกรีซกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ ERT เมื่อเช้าวันอังคาร

"แต่สถานการณ์อาจพลิกผันอีก หากมีลมแรงตั้งแต่เที่ยงวันเป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ทุกชั่วโมงที่ผ่านไปจะยากลำบากมากขึ้น" เขากล่าว

หอสังเกตการณ์แห่งชาติระบุว่าอุณหภูมิจะสูงถึง 38 องศาเซลเซียสในเอเธนส์ โดยจะมีลมแรงถึง 39 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประมาณ 700 นาย พร้อมด้วยรถดับเพลิง 200 คันและเครื่องบิน 9 ลำ กำลังต่อสู้กับไฟป่าที่ลุกลามช่วงบ่ายวันอาทิตย์ในเมืองวาร์นาวาส ซึ่งอยู่ห่างจากเอเธนส์ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 35 กิโลเมตร

สถานีโทรทัศน์ ERT รายงานว่า กระแสลมแรงทำให้ไฟป่าลุกลามเป็นแนวยาว 30 กิโลเมตร และสูงมากกว่า 25 เมตรในบางพื้นที่

หอสังเกตการณ์แห่งชาติของกรีซซึ่งเสี่ยงต่อการคุกคามของไฟป่าเช่นกัน เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ว่า พื้นที่อย่างน้อย 10,000 เฮกตาร์ (ประมาณ 62,500 ไร่) ได้รับความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้

รัฐบาลกรีกได้ร้องขอความช่วยเหลือระหว่างประเทศแล้ว และทางการคาดว่านักดับเพลิง, เฮลิคอปเตอร์, รถดับเพลิง และรถบรรทุกน้ำจากฝรั่งเศส, อิตาลี, สาธารณรัฐเช็ก, โรมาเนีย, เซอร์เบีย และตุรเคียจะเข้าร่วมในความพยายามดับไฟดังกล่าว

มีรายงานพบศพผู้หญิงรายหนึ่งในโรงงานที่ถูกไฟไหม้ในกรุงเอเธนส์ ถือเป็นผู้เสียชีวิตรายแรกจากเหตุไฟป่าครั้งนี้

กระทรวงสาธารณสุขกรีซระบุว่า มีผู้เข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บที่เกี่ยวข้องกับเหตุไฟไหม้ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาแล้ว 66 คน

มีคำสั่งอพยพหลายสิบฉบับ และผู้คนหลายพันคนต้องอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากไฟป่าได้ทำลายบ้านเรือน, ธุรกิจ และทรัพย์สิน ในเขตชานเมืองของเนียเพนเทลิ, ปาไลอาเพนเทลิ, ปาติมา, ฮาลานดรีอู และวริลิสเซีย

ทั้งนี้ รัฐบาลอนุรักษนิยมของกรีซถูกโจมตีจากสื่อมวลชน จากความล้มเหลวในการป้องกันไฟป่าที่เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ถึงขั้นขับไล่ให้พ้นจากการบริหารประเทศ

นายกรัฐมนตรีคีรีอาคอส มิตโซทาคิสซึ่งกำลังพักผ่อนที่เกาะฮาเนียบ้านเกิดของเขา ได้เดินทางกลับเมืองหลวงเมื่อวันอาทิตย์ แต่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับภัยพิบัติครั้งนี้

ไฟป่าลุกลามครั้งนี้กระตุ้นความทรงจำเลวร้ายในเดือนกรกฎาคม 2561 ในเมืองมาติซึ่งเป็นพื้นที่ชายฝั่งใกล้กับเมืองมาราธอน โดยมีผู้เสียชีวิต 104 รายจากโศกนาฏกรรมที่ต่อมามีการระบุว่าเป็นผลจากความล่าช้าและความผิดพลาดในการอพยพของรัฐบาล

ไฟป่าในช่วงฤดูร้อนของกรีซในปีนี้เกิดขึ้นทุกวันวันละหลายสิบครั้ง หลังจากที่ประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้เผชิญปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิากาศอย่างหนัก ทั้งฤดูหนาวที่อบอุ่นที่สุด และฤดูร้อนที่ร้อนที่สุด นับตั้งแต่ปี 2503.

เพิ่มเพื่อน