แรงกดดันจากนานาชาติเพิ่มขึ้นให้มีการหยุดยิงในฉนวนกาซา โดยอังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมนีได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันให้ยุติการสู้รบระหว่างอิสราเอลและฮามาส "โดยไม่ชักช้าอีกต่อไป"
ชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นกำลังอพยพออกจากพื้นที่เมืองข่าน ยูนิส หลังจากกองทัพอิสราเอลออกคำสั่งอพยพครั้งใหม่ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา (Photo by Bashar TALEB / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 12 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า อังกฤษ, ฝรั่งเศส และเยอรมนีได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันให้อิสราเอลและฮามาสยุติการสู้รบ "โดยไม่ชักช้าอีกต่อไป"
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหนึ่งวันหลังจากกลุ่มฮามาสได้เรียกร้องให้ผู้ไกล่เกลี่ยดำเนินการตามแผนหยุดยิงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เสนอแทนที่จะจัดการเจรจากันเพิ่มเติม
ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส, นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี และนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของอังกฤษ ระบุในแถลงการณ์ร่วมกันว่า "การสู้รบต้องยุติลงในตอนนี้ และตัวประกันทั้งหมดที่ยังถูกฮามาสควบคุมตัวอยู่จะต้องได้รับการปล่อยตัว"
"ประชาชนในฉนวนกาซาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนและไม่ถูกควบคุม ไม่สามารถชักช้าต่อไปได้อีกแล้ว" แถลงการณ์กล่าว
ผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศได้เชิญอิสราเอลและฮามาสกลับมาเจรจากันอีกครั้งเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวตัวประกันที่เรียกร้องกันมานาน หลังจากการต่อสู้ในฉนวนกาซาและการสังหารผู้นำกลุ่มติดอาวุธที่สนับสนุนอิหร่านได้จุดชนวนให้เกิดความกลัวว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างไปกว่านี้
อิสราเอลได้ยอมรับคำเชิญจากสหรัฐอเมริกา, กาตาร์ และอียิปต์ เพื่อเข้าร่วมการเจรจารอบที่วางแผนไว้ในวันพฤหัสบดี
ฮามาสกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าต้องการให้มีการปฏิบัติตามแผนหยุดยิงที่เสนอโดยไบเดนเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมและต่อมาได้รับการรับรองโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ แทนที่จะเจรจาเพิ่มเติมหรือยื่นข้อเสนอใหม่มาพิจารณา
ฮามาสเรียกร้องให้ผู้ไกล่เกลี่ยนำเสนอแผนปฏิบัติ โดยอิงตามวิสัยทัศน์ของไบเดนและมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และบังคับให้อิสราเอลปฏิบัติตาม
ไบเดนเรียกแผนดังกล่าวว่าเป็น "แผนปฏิบัติการสามขั้นตอนสู่การหยุดยิงที่ยั่งยืนและการปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมด" โดยอธิบายว่าเป็นข้อเสนอของอิสราเอล แต่ความพยายามไกล่เกลี่ยตั้งแต่นั้นมาก็ยังคงล้มเหลว
ทั้งนี้แผนของไบเดนกำหนดไว้ว่า ระยะที่ 1 หรือระยะ 6 สัปดาห์แรก จะมีการหยุดยิงโดยสมบูรณ์, การถอนกำลังอิสราเอลออกจากพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่ทุกแห่งในฉนวนกาซา, การปล่อยตัวตัวประกันจำนวนหนึ่ง รวมทั้งผู้หญิง คนชรา และผู้บาดเจ็บ เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน
ในระยะที่ 2 หากทั้งสองฝ่ายตกลงกันได้ พวกเขาจะเข้าสู่การเจรจายุติความเป็นปรปักษ์อย่างถาวร ซึ่งจะรวมถึงการปล่อยตัวตัวประกันที่มีชีวิตทั้งหมด และกองกำลังอิสราเอลจะถอนตัวออกจากฉนวนกาซา
ในระยะที่ 3 จะเป็นการทำงานร่วมกันของหลายฝ่ายเพื่อให้เกิดแผนฟื้นฟูฉนวนกาซาครั้งใหญ่ รวมไปถึงการส่งศพตัวประกันที่เสียชีวิตกลับสู่มาตุภูมิ ซึ่งในระยะนี้สหรัฐอเมริกาสัญญาว่าจะมีส่วนร่วม เช่นเดียวกับกลุ่มประเทศอ่าวเปอร์เซีย
อย่างไรก็ตาม กลุ่มฮามาสเพิ่งแต่งตั้งยาห์ยา ซินวาร์ หัวหน้ากลุ่มในฉนวนกาซา ขึ้นดำรงตำแหน่งแทนอิสมาอิล ฮานีเยห์ ผู้นำทางการเมืองและผู้เจรจายุติสงครามที่ถูกสังหารเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคมในกรุงเตหะรานจากการโจมตีที่กล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของอิสราเอล ซึ่งอิสราเอลไม่ได้อ้างความรับผิดชอบ
การสังหารฮานีเยห์ที่เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากอิสราเอลลอบสังหารหัวหน้ากองทัพของกลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนได้กระตุ้นให้เกิดกระบวนการทางการทูตอย่างเข้มข้นเพื่อป้องกันสงครามขยายตัวในตะวันออกกลาง
แรงกดดันให้มีการหยุดยิงเพิ่มมากขึ้นยังได้รับการกระตุ้นจากเหตุโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อวันเสาร์ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 93 รายที่โรงเรียนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นที่พักพิงของชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่น
เจ้าหน้าที่ในฉนวนกาซากล่าวกับเอเอฟพีเมื่อวันจันทร์ว่า พวกเขาได้ระบุตัวตนของชาวปาเลสไตน์ 75 รายที่เสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว
ขณะที่กองทัพอิสราเอลได้ออกมาชี้แจงปฏิบัติการดังกล่าวว่า มุ่งเป้าโจมตีศูนย์ควบคุมและบัญชาการของกลุ่มฮามาส ซึ่งฝังตัวอยู่ในโรงเรียนอัลตาบีนในกาซาซิตี และประกาศว่าสมาชิกกลุ่มฮามาสและกลุ่มก่อการร้ายญิฮาดอิสลามอย่างน้อย 19 รายถูกกำจัดแล้ว
อิหร่าน, ฮามาส, ฮิซบุลเลาะห์ และกลุ่มพันธมิตรอื่นๆในภูมิภาคประกาศว่าจะดำเนินการตอบโต้อิสราเอลต่อกรณีการสังหารฮานีเยห์และฟูอัด ชุคร์ หัวหน้ากองทัพของฮิซบุลเลาะห์
ล่าสุด ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐสั่งการให้กลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินและเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธนำวิถี 'ยูเอสเอส จอร์เจีย' เร่งเดินทางเข้าไปยังพื้นที่ตะวันออกกลาง เพื่อตอบสนองกรณีการโจมตีรุนแรง หลังได้รับกระแสข่าวว่าอิหร่านจะโจมตีอิสราเอลในสัปดาห์นี้
ขณะที่อิสราเอลประกาศอพยพครั้งใหม่ในข่าน ยูนิส ซึ่งเป็นเมืองหลักของกาซาทางตอนใต้ที่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยระเบิดและการสู้รบเป็นเวลานานหลายเดือน โดยมีรายงานจากหน่วยงานสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (UNRWA) ว่าประชาชนมากกว่า 75,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของกาซาซึ่งเป็นที่ตั้งของข่าน ยูนิส ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา.
