เครื่องบินโดยสารตกในบราซิล คร่าชีวิตผู้โดยสาร 61 ราย

เครื่องบินตกในรัฐเซาเปาโลของบราซิล ส่งผลให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตทั้งหมด 61 ราย ยังไม่ทราบสาเหตุ

ภาพมุมสูงของซากเครื่องบินที่ตกพร้อมผู้โดยสารและลูกเรือ 61 คนในเมืองวินเฮโด รัฐเซาเปาโล ประเทศบราซิล เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ส่งผลให้ผู้โดยสารบนเครื่องเสียชีวิตทั้งหมด (Photo by Miguel SCHINCARIOL / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 10 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า เครื่องบิน ATR 72-500 ของสายการบิน Voepass พร้อมผู้โดยสาร 57 คนและลูกเรือ 4 คน ตกในรัฐเซาเปาโลของบราซิล โดยเครื่องเสียหายอย่างหนักและผู้โดยสารทั้งหมดตายยกลำ

เครื่องบินลำดังกล่าวกำลังเดินทางจากเมืองคาสคาเวลในรัฐปารานาทางตอนใต้ ไปยังสนามบินนานาชาติกัวรูลโฮสในเซาเปาโล แต่ประสบเหตุขัดข้องจนตกในเมืองวินเฮโด

ภาพที่เผยแพร่ทางสื่อท้องถิ่นแสดงให้เห็นเครื่องบินลำใหญ่หมุนตัวขณะร่วงลงมาในแนวตั้ง หลังจากนั้นกลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งขึ้นจากจุดที่เครื่องบินตกในบริเวณที่ดูเหมือนจะเป็นพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัย

เจ้าหน้าที่ทางการของเมืองวาลินโญสซึ่งมีส่วนร่วมในปฏิบัติการกู้ภัยและกู้ซากเครื่องบินในเมืองวินเฮโดที่อยู่ติดกัน ให้ข้อมูลว่าไม่พบผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว โดยศพทั้งหมดที่กู้ได้จะนำไปพักไว้ที่ห้องเก็บศพเพื่อเริ่มกระบวนการชันสูตรและระบุตัวตน

ทั้งนี้ เมืองวินเฮโดซึ่งมีประชากรราว 76,000 คน ตั้งอยู่ห่างจากเซาเปาโลไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร

ก่อนที่จะมีการประกาศยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิลกล่าวระหว่างงานที่จัดขึ้นในรัฐซานตาคาตารินาว่า รู้สึกเสียใจกับโศกนาฏกรรมดังกล่าวและขอให้มีการยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยให้กับผู้เสียชีวิต

บริษัท Voepass กล่าวในแถลงการณ์ว่ากำลังให้ความร่วมมือกับทางการเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุของการสูญเสียครั้งนี้ และพร้อมจะให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต

"เครื่องบินดังกล่าวซึ่งเป็นเครื่องยนต์เทอร์โบพร็อพ (Turbo prop) 2 เครื่องยนต์ ได้รับการตรวจสอบแล้วว่าสามารถทำการบินได้โดยไม่มีข้อจำกัดใดๆ และระบบทั้งหมดทำงานได้ตามปกติ" แถลงการณ์ระบุเสริม

บริษัท ATR ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติฝรั่งเศส-อิตาลีและเป็นบริษัทในเครือแอร์บัสกล่าวว่า ผู้เชี่ยวชาญของบริษัทฯกำลังทำงานเพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สืบสวนในการค้นหาความจริง

เจ้าหน้าที่ดับเพลิง, ตำรวจ และหน่วยป้องกันพลเรือนของรัฐจำนวนมากถูกส่งไปประจำยังที่เกิดเหตุ

ตำรวจบราซิลบอกกับสื่อท้องถิ่นว่าอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่ได้ทำให้มีผู้บาดเจ็บเพิ่มเติม ณ จุดเกิดเหตุ และไฟไหม้ที่เกิดจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกก็ถูกควบคุมได้แล้ว

กิลแลร์เม เดอร์ริเต เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของรัฐเซาเปาโลกล่าวกับผู้สื่อข่าวในที่เกิดเหตุว่า กล่องดำของเครื่องบินถูกค้นพบแล้วในสภาพสมบูรณ์ และขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

เครื่องบินลำที่ประสบเหตุได้ทำการบินครั้งแรกในเดือนเมษายน 2553 ตามรายงานของเว็บไซต์ planespotters.net

ความปลอดภัยทางอากาศได้รับการปรับปรุงอย่างมากในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา โดยอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารที่คร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากเกิดขึ้นน้อยลงเรื่อยๆ ทั่วโลก แต่ยังคงเกิดขึ้นบ่อยขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา

โดยล่าสุดในเดือนมกราคม 2566 เครื่องบิน ATR 72-500 อีกลำหนึ่งที่ดำเนินการโดยสายการบินเยติแอร์ไลน์ส (Yeti Airlines) ประสบเหตุตกกระแทกพื้นในเนปาล ทำให้ผู้โดยสารบนเครื่องทั้ง 72 คนเสียชีวิต และทางการเนปาลเปิดเผยผลการสอบสวนว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดจากความผิดพลาดของนักบิน.