ฮามาสแต่งตั้งยาห์ยา ซินวาร์เป็นหัวหน้ากลุ่มคนใหม่

ยาห์ยา ซินวาร์ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำทางการเมืองคนใหม่ของกลุ่มฮามาส แทนการจากไปของอิสมาอิล ฮานีเยห์ อดีตผู้นำกลุ่มซึ่งถูกอิสราเอลสังหารในอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางกำลังตื่นตัวกับสถานการณ์ตึงเครียดที่อิหร่านเตรียมตอบโต้เอาคืนอิสราเอล

ยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำทางการเมืองคนใหม่ของกลุ่มฮามาส (Photo by Mahmud HAMS / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 7 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า กลุ่มฮามาสปาเลสไตน์ได้ทำการแต่งตั้งยาห์ยา ซินวาร์ เป็นผู้นำทางการเมืองคนใหม่ แทนการจากไปของอิสมาอิล ฮานีเยห์ อดีตผู้นำกลุ่มซึ่งถูกอิสราเอลสังหารในอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ภูมิภาคตะวันออกกลางเตรียมรับมือกับการตอบโต้ของอิหร่านกรณีอิสราเอลเหยียบจมูกด้วยการบุกสังหารฮานีเยห์ในกรุงเตหะราน

อิหร่านกล่าวโทษอิสราเอลว่าเป็นต้นเหตุให้ฮานีเยห์ต้องเสียชีวิตและให้คำมั่นว่าจะลงโทษด้วยการโจมตีคืน ขณะที่กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอนซึ่งเป็นพันธมิตรของกลุ่มฮามาส ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะตอบโต้ต่อการสังหารฟูอัด ชุคร์ ผู้บัญชาการทหารระดับสูงสุดและหัวหน้าหน่วยยุทธศาสตร์ของกลุ่มที่เสียชีวิตในกรุงเบรุต

ทั้งนี้ ยาห์ยา ซินวาร์เป็นผู้นำกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซามาตั้งแต่ปี 2560 ขณะที่ฮานีเยห์ซึ่งอาศัยอยู่ในกาตาร์ แทบไม่ได้ปรากฏตัวเลยนับตั้งแต่โจมตีอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกลุ่มฮามาสกล่าวกับเอเอฟพีว่า การเลือกซินวาร์ให้เป็นผู้นำคนใหม่แสดงให้ทั้งโลกเห็นว่าพวกเขาจะยังคงเดินหน้าเพื่อปาเลสไตน์ต่อไป

อิสราเอล คาทซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศอิสราเอลแสดงความเห็นต่อความเคลื่อนไหวของกลุ่มฮามาสว่า การแต่งตั้งซินวาร์ยิ่งตอกย้ำการดำเนินไปของสงครามและยิ่งเป็นเหตุผลสนับสนุนให้อิสราเอลเดินหน้ากำจัดองค์กรชั่วร้ายนี้ให้สิ้นซากเช่นกัน โดยเชื่อกันว่า ยาห์ยา ซินวาร์นั้นไม่เห็นด้วยกับการทำข้อตกลงหยุดยิง ไม่เหมือนฮานีเยห์ที่ประนีประนอมมากกว่า

ขณะเดียวกัน ฮัสซัน นัสรุลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบุลเลาะห์กล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์ว่า กลุ่มของเขาและอิหร่านจำเป็นต้องตอบโต้ต่อการเสียชีวิตของทั้งอิสมาอิล ฮานีเยห์และฟูอัด ชุคร์

นัสรุลเลาะห์กล่าวว่า กลุ่มฮิซบุลเลาะห์จะตอบโต้เพียงลำพังหรือในบริบทของการตอบโต้ที่เป็นหนึ่งเดียวจากแกนทั้งหมดของกลุ่มที่อิหร่านหนุนหลังในภูมิภาค และไม่สนใจว่าผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร

ขณะที่ทำเนียบขาวกล่าวว่า รัฐบาลวอชิงตันกำลังทำงานตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสงครามเต็มรูปแบบในตะวันออกกลาง

สหรัฐฯได้ส่งเรือรบและเครื่องบินขับไล่เพิ่มเติมไปยังภูมิภาคดังกล่าวเพื่อสนับสนุนอิสราเอล และเมื่อวันจันทร์ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้หารือในประเด็นวิกฤตกับทีมความมั่นคงแห่งชาติของเขา และยังได้โทรศัพท์ไปหากษัตริย์อับดุลลาห์ที่ 2 แห่งจอร์แดน, เจ้าผู้ครองนครกาตาร์ และประธานาธิบดีอียิปต์ เพื่อร่วมปรึกษาหาทางออกของวิกฤตนี้ในฐานะตัวกลางสำคัญในการแสวงหาการหยุดยิงในสงครามฉนวนกาซาที่ดำเนินมานาน 10 เดือน เช่นเดียวกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่ได้โทรศัพท์ไปหาเจ้าหน้าที่ระดับสูงทั้งในกาตาร์และอียิปต์ โดยมุ่งหวังให้ทุกฝ่ายงดเว้นการยกระดับความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีมาซูด ปีเซชเคียน ของอิหร่าน ชี้ว่าการกระทำของอิสราเอลต่อประชาชนที่ถูกกดขี่และไม่มีทางสู้ในฉนวนกาซา รวมถึงการสังหารฮานีเยห์ ล้วนเป็นสิ่งผิดกฏหมาย

"สาธารณรัฐอิสลามอิหร่านไม่ได้พยายามขยายขอบเขตของสงครามและวิกฤตในภูมิภาคนี้แต่อย่างใด แต่ผู้กระทำเฉกเช่นอิสราเอลจะได้รับการตอบสนองต่ออาชญากรรมและความเย่อหยิ่งนั้นอย่างแน่นอน" ปีเซชเคียนกล่าวผ่านการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว IRNA

จนถึงตอนนี้ อิสราเอลไม่ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการสังหารฮานีเยห์ แต่ยืนยันว่าได้สังหารชุคร์

อิสราเอลถือว่าผู้บัญชาการฮิซบุลเลาะห์รายนี้เป็นมือขวาของนัสรุลเลาะห์และต้องรับผิดชอบต่อการโจมตีด้วยจรวดในที่ราบสูงโกลันที่เป็นเหตุให้เยาวชนเสียชีวิต 12 รายเมื่อสามสัปดาห์ก่อน

การยิงปะทะข้ามพรมแดนเกิดขึ้นมาตลอดตั้งแต่สงครามฉนวนกาซาเริ่มต้นในเดือนตุลาคม และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 531 รายในเลบานอน โดยส่วนใหญ่เป็นนักรบ แต่ก็มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 105 ราย และล่าสุดกลุ่มฮิซบุลเลาะห์กล่าวว่านักรบของพวกเขาเสียชีวิต 6 รายจากการโจมตีของอิสราเอลในเลบานอนตอนใต้ และได้ยิงจรวด Katyusha หลายสิบลูกไปที่ฐานทัพทหารในที่ราบสูงโกลันเพื่อตอบโต้

อับดุลลาห์ บู ฮาบิบ รัฐมนตรีต่างประเทศเลบานอนเองยังยอมรับว่า มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามระหว่างเลบานอนและอิสราเอลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

บรรดานักการทูตยุโรปในอิสราเอลเชื่อว่าจะมีการตอบสนองพร้อมกันจากอิหร่านและกลุ่มพันธมิตรในการโจมตีอิสราเอลเร็วๆนี้ แต่การเจรจาเพื่อให้หยุดการกระทำดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป

ล่าสุดรัฐบาลหลายชาติเรียกร้องให้ประชาชนของตนหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังอิสราเอล, อิหร่าน และเลบานอน

สายการบินนานาชาติหลายแห่งได้ระงับเที่ยวบินไปเลบานอนหรือจำกัดการบินเฉพาะในเวลากลางวันเท่านั้น ขณะที่สายการบินแห่งชาติของเลบานอนได้เพิ่มเที่ยวบินพิเศษสำหรับผู้ที่ต้องการออกจากเลบานอนหรือกลับประเทศของตน.