พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามแต่งตั้งให้โตเลิมเป็นผู้นำสูงสุด

ประธานาธิบดีโตเลิมของเวียดนามได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำสูงสุดอย่างเป็นทางการ พร้อมให้คำมั่นสานต่อการปราบปรามการทุจริตครั้งใหญ่ในทุกองค์กรของประเทศ

ประธานาธิบดีโตเลิมได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเลขาธิการใหญ่และผู้นำคนใหม่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม (Photo by Nhac NGUYEN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า ภายหลังเสร็จสิ้นรัฐพิธีศพของเหงียน ฟู่ จ่อง เลขาธิการใหญ่และผู้นำของพรรคคอมมิวนิสต์ที่ถึงแก่อสัญกรรมเนื่องจากความชราภาพและอาการป่วยหนักเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ล่าสุดพรรคฯได้แต่งตั้งผู้สืบทอดต่อจากอดีตผู้นำคนดังกล่าวแล้ว

พรรคคอมมิวนิสต์ได้เลือกโตเลิมเป็นเลขาธิการใหญ่และผู้นำคนใหม่ และเมื่อรวมกับตำแหน่งประธานาธิบดีที่เขาดำรงอยู่ จะทำให้เขากลายเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโครงสร้างผู้นำของเวียดนาม

ในการกล่าวสุนทรพจน์ครั้งแรกของเขาในฐานะเลขาธิการพรรคฯ โตเลิมให้คำมั่นว่าจะเร่งดำเนินการปราบปรามการทุจริตที่ทำให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้นำธุรกิจจำนวนมากต้องเผชิญกับการดำเนินคดีอาญา

"ผมจะเร่งดำเนินการปราบปรามการทุจริตต่อไป โดยไม่สนใจว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครก็ตาม ให้สมกับการได้รับความไว้วางใจจากประชาชนและมิตรประเทศ" โตเลิมกล่าว

เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ถือเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโครงสร้างผู้นำของเวียดนาม โดยประธานาธิบดีมีบทบาทในเชิงพิธีการเป็นหลัก ซึ่งรวมถึงการพบปะกับผู้นำรัฐอื่นๆด้วย

โตเลิมเพิ่งได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีในเดือนพฤษภาคม หลังจากประธานาธิบดีคนก่อนๆถูกบีบให้ลาออกท่ามกลางการกวาดล้างการทุจริตคอร์รัปชันครั้งใหญ่

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความชัดเจนว่าโตเลิมจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อไปหรือไม่ หรือจะลาออกแล้วแต่งตั้งผู้เหมาะสมขึ้นมาแทน

สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของจีนรายงานว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงได้ส่งข้อความแสดงความยินดีแก่ผู้นำคนใหม่ด้วยเช่นกัน

ในวันเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามออกแถลงการณ์ว่าได้ยอมรับการลาออกของสมาชิก 4 คนซึ่งเข้าไปเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎของพรรคฯและระเบียบเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต

4 คนดังกล่าวประกอบด้วยรองนายกรัฐมนตรี, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหัวหน้าพรรคระดับจังหวัด 2 คน

ทั้งนี้ การก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดอย่างเป็นทางการของโตเลิมเกิดขึ้นหลังจากทำงานให้กับกระทรวงความมั่นคงสาธารณะมาอย่างยาวนาน โดยเขาทำหน้าที่ดูแลการเฝ้าติดตามความเห็นต่างและเฝ้าติดตามนักเคลื่อนไหวในเวียดนามซึ่งเป็นรัฐพรรคเดียว

โตเลิม วัย 67 ปี ดำรงตำแหน่งผู้นำกระทรวงฯตั้งแต่ปี 2559 จนกระทั่งได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีนี้

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรี, ผู้นำธุรกิจ และประธานาธิบดี 2 คน ต่างก็ต้องหลุดจากตำแหน่งและบางส่วนก็ถูกดำเนินคดีทางอาญาจากการคอร์รัปชันหรือแม้กระทั่งฉ้อโกง.