เจ้าหน้าที่กู้ภัยอินเดียยังคงค้นหาผู้รอดชีวิตจากเหตุดินถล่มหมู่บ้านและไร่ชาในรัฐเกรละ แม้จะไม่เหลือความหวังว่าจะพบเพิ่มเติมจากเหตุที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 200 ราย
ทรัพย์สินที่หลงเหลือของผู้ประสบเหตุเสียชีวิตจากดินถล่มในเขตเวยานาท รัฐเกรละ ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม มีผู้เสียชีวิตจากเหตุดังกล่าวเกือบ 200 ราย (Photo by Idrees MOHAMMED / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 1 สิงหาคม 2567 กล่าวว่า ผ่านไปกว่า 48 ชั่วโมงแล้วที่เกิดเหตุดินถล่มขนาดใหญ่ในเขตเวยานาท รัฐเกรละ ทางตอนใต้ของอินเดีย
ฝนที่ตกหนักหลายวันในฤดูมรสุมเป็นสาเหตุให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มครั้งแล้วครั้งเล่าบริเวณชายฝั่งทางตอนใต้ของประเทศ ทำให้ถนนหลายสายถูกตัดขาดและส่งผลต่อกาบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบเหตุในหมู่บ้านและไร่ชาตั้งแต่วันอังคารเป็นต้นมา
หน่วยงานสภาพอากาศรายงานว่า มีปริมาณน้ำฝนสูงถึง 572 มิลลิเมตร (22.5 นิ้ว) ในช่วงสองวันก่อนเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้
เวยานาทมีชื่อเสียงในเรื่องไร่ชาที่ทอดยาวข้ามเนินเขาและต้องพึ่งพาคนงานจำนวนมากในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว
แต่กำแพงโคลนสีน้ำตาลได้พังทลายบ้านแถวที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับคนงานตามฤดูกาล ในขณะที่คนงานและครอบครัวของพวกเขากำลังนอนหลับ
ทางการรัฐเกรละระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 176 ราย โดยเป็นการนับตามจำนวนศพที่เก็บกู้ขึ้นมาได้จากพื้นที่เกิดเหตุ และคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตในท้ายที่สุดน่าจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยรายงานการค้นพบชิ้นส่วนร่างกายหลายสิบชิ้นที่กู้มาจากกระแสน้ำท่วมหรือพบฝังอยู่ในดินโคลน และอาจมีการพิจารณายกเลิกการค้นหาผู้รอดชีวิตหลังจากนี้
กองทัพส่งทหารมาสร้างสะพานชั่วคราวข้ามกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานค้นหาและกู้ภัย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ต้องพึ่งซิปไลน์ชั่วคราวในการขนส่งร่างผู้เสียชีวิตที่กู้ขึ้นมาได้
ทั้งนี้ ฝนมรสุมทั่วทั้งภูมิภาคตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงกันยายนช่วยคลายความร้อนของฤดูร้อนและมีความสำคัญต่อการเติมน้ำให้กับเขื่อน
ฝนมีความสำคัญต่อการเกษตร ดังนั้นจึงมีความสำคัญต่อการดำรงชีพของเกษตรกรหลายล้านคนและความมั่นคงทางอาหารของประชากรเกือบสองพันล้านคนในเอเชียใต้
แต่ฝนยังนำมาซึ่งการทำลายล้างในรูปแบบของดินถล่มและน้ำท่วม
จำนวนน้ำท่วมและดินถล่มในอินเดียคร่าชีวิตผู้คนเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ปัญหาเลวร้ายลง
การสร้างเขื่อน, การตัดไม้ทำลายป่า และโครงการพัฒนาในอินเดียยังทำให้จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย.
