คณะรัฐประหารเมียนมาขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินอีก 6 เดือน

คณะรัฐประหารเมียนมาขยายเวลาประกาศภาวะฉุกเฉินอีก 6 เดือน พร้อมเลื่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่สัญญาว่าจะจัดขึ้นออกไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังมีภารกิจพัวพันในการต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร

แฟ้มภาพ พล.อ. มิน อ่อง หล่าย (ขวา) ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมา กล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเฉลิมฉลองวันกองทัพของประเทศ ในกรุงเนปยีดอ (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 31 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า คณะรัฐประหารเมียนมาประกาศขยายเวลาภาวะฉุกเฉินต่ออีก 6 เดือน พร้อมเลื่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่สัญญาว่าจะจัดขึ้นออกไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากยังมีภารกิจพัวพันในการต่อสู้กับฝ่ายต่อต้านการรัฐประหาร

เมียนมาตกอยู่ในความโกลาหลนับตั้งแต่การรัฐประหารในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งเป็นการยุติการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่ดำเนินมา 10 ปี และจุดชนวนให้เกิดการประท้วงครั้งใหญ่และการปราบปรามผู้เห็นต่าง

สามปีครึ่งต่อมา คณะรัฐประหารกำลังดิ้นรนเพื่อปราบปรามฝ่ายต่อต้านที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ และเมื่อไม่นานนี้ต้องประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่หลายครั้งให้กับพันธมิตรของกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธ

"คณะทหารไม่สามารถจัดการเลือกตั้งใหม่ได้ตามแผนเดิมหลังจากการประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งแรกตั้งแต่ 2 ปีก่อน เนื่องมาจากการก่อการร้ายที่ยังคงแทรกซึมในหลายพื้นทึ่ทั่วประเทศ" สถานีวิทยุโทรทัศน์ MRTV รายงาน

"สมาชิกสภาความมั่นคงและการป้องกันประเทศซึ่งประกอบไปด้วยคณะทหารทั้งหมด มีมติเอกฉันท์ที่จะขยายระยะเวลาการประกาศภาวะฉุกเฉินออกไปอีก 6 เดือน" MRTV กล่าว

มิน อ่อง หล่าย หัวหน้าคณะทหารเป็นผู้เสนอให้ขยายระยะเวลาออกไป เพื่อเตรียมบัตรลงคะแนนที่ถูกต้องและแม่นยำสำหรับการเลือกตั้งที่คณะทหารสัญญาไว้ ซึ่งอาจเป็นในปี 2568

นอกจากนี้ การขยายระยะเวลายังมีความจำเป็นเพื่อดำเนินการสำรวจสำมะโนประชากรและเพื่อดำเนินการตามภารกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งที่โปร่งใส

ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญปี 2551 ที่ร่างโดยกองทัพซึ่งคณะทหารกล่าวว่ายังคงมีผลบังคับใช้อยู่ รัฐบาลทหารจะต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 6 เดือนหลังการประกาศยกเลิกภาวะฉุกเฉิน

กองทัพทำการรัฐประหารและยึดอำนาจด้วยการกล่าวหาว่ามีการฉ้อโกงในการเลือกตั้งปี 2563 ซึ่งพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของอองซานซูจีได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลาย

กองทัพได้ขยายการประกาศภาวะฉุกเฉินหลายครั้งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เพราะพัวพันการต่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อย และกองกำลังป้องกันประชาชนที่สนับสนุนประชาธิปไตย

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา กองทัพต้องพ่ายแพ้ในสนามรบหลายครั้งให้กับพันธมิตรของกลุ่มติดอาวุธชนกลุ่มน้อยทางตอนเหนือและตะวันตกของประเทศ

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา (MNDAA) อ้างว่าได้ยึดเมืองล่าเสี้ยวทางตอนเหนือ ซึ่งตั้งอยู่บนเส้นทางการค้าสำคัญสู่จีน และเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการกองทัพภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

กองทัพทหารปฏิเสธการกล่าวอ้างนั้นโดยทันที

เมื่อเดือนมกราคม กองกำลัง MNDAA ยึดเมืองเล่าก์ก่ายใกล้ชายแดนเมียนมากับจีนได้สำเร็จ หลังจากทหารของคณะรัฐประหารราว 2,000 นายยอมจำนน ซึ่งถือเป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของกองทัพในรอบหลายทศวรรษ

นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารและการปะทะระหว่างกองทัพกับฝ่ายต่อต้าน ประชาชนกว่า 2.7 ล้านคนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนและถิ่นที่อยู่ ตามข้อมูลของสหประชาชาติ

มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 5,400 รายและถูกจับกุม 27,000 คน จากการปราบปรามผู้เห็นต่างของคณะรัฐประหาร ตามข้อมูลของกลุ่มตรวจสอบในพื้นที่

แม้คณะรัฐประหารกล่าวว่าจะจัดการเลือกตั้งใหม่ในปี 2568 แต่บรรดานักวิจารณ์กล่าวว่าการเลือกตั้งที่จัดขึ้นโดยรัฐบาลทหารจะไม่มีทางเสรีและยุติธรรม.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ส่อง“โมเดล”ดับไฟเมียนมา “ทักษิณ”พลิกธุรกิจสีเทาเข้าระบบ

ระดับแกนนำ“พรรคเพื่อไทย”ออกอาการอ้ำอึ้ง ไม่รู้ไม่เห็นกรณี “ทักษิณ ชินวัตร” ไปคุยกับชนกลุ่มน้อยเมียนมา ตั้งแต่ช่วงสงกรานต์เป็นต้นมา แต่สื่อตะวันตกต่างนำเสนอข่าวอย่างครึกโครม