ผู้คนนับพันหนีไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็วในแคลิฟอร์เนียตอนเหนือ

นักผจญเพลิงกำลังต่อสู้กับไฟป่าที่ลุกลามอย่างรวดเร็วในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ประชาชนเร่งอพยพกว่า 3,500 คน

บ้านเรือนได้รับความเสียหายจากไฟไหม้ป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม (Photo by David SWANSON / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า เกิดไฟป่าปะทุขึ้นในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในแคลิฟอร์เนียเมื่อเย็นวันพุธและลุกลามเผาไหม้พื้นที่มากขึ้นเรื่อยๆ จนทางการต้องสั่งอพยพผู้คน

นักผจญเพลิงกว่า 1,150 นายถูกส่งไปดับไฟป่าดังกล่าว แต่ก็สามารถควบคุมได้เพียง 3% ตามข้อมูลของกรมป่าไม้และป้องกันอัคคีภัยของรัฐแคลิฟอร์เนียที่ระบุเพิ่มเติมว่าข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี ไฟป่าได้ลุกลามไปทั่วพื้นที่แล้วกว่า 124,949 เอเคอร์ (ประมาณ 316,121 ไร่)

เกวิน นิวซัม ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนียกล่าวว่า ประชาชนกว่า 3,500 คนได้อพยพออกจากพื้นที่แล้ว

ทั้งนี้ เมืองชิโกซึ่งกำลังเผชิญกับไฟป่าดังกล่าว ตั้งอยู่ห่างจากเมืองพาราไดซ์ไปทางตะวันตกเพียง 20 กิโลเมตร โดยพาราไดซ์เองก็เคยเผชิญไฟป่าครั้งใหญ่ในปี 2561 และมีผู้เสียชีวิต 85 รายจากเหตุการณ์ครั้งนั้น

ทางการเปิดสอบสวนหาสาเหตุของไฟไหม้ที่เริ่มต้นจากสวนสาธารณะ โดยไมค์ แรมซีย์ อัยการเขตบัตต์เคาน์ตี้ระบุในแถลงการณ์ว่า จับกุมชายวัย 42 ปีที่ต้องสงสัยว่าเป็นต้นเหตุ เพราะถูกพบเห็นว่ากระทำการผลักดันรถยนต์ที่กำลังลุกไหม้ลงไปในร่องเขาใกล้กับจุดต้นเพลิง

แถลงการณ์ระบุเพิ่มเติมว่า รถยนต์คันดังกล่าวถูกเผาไหม้จนหมด และเป็นเหตุให้ไฟไหม้ในสวนสาธารณะลุกลาม

กรมอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติสหรัฐได้ออกคำเตือนสภาพอากาศ "ระดับสีแดง" ซึ่งบ่งชี้สภาพอากาศที่อาจทำให้เกิดไฟป่ารุนแรงในพื้นที่ ซึ่งรวมถึงลมกระโชกแรงและความชื้นต่ำ

ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน พื้นที่ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกาประสบกับคลื่นความร้อนหลายครั้ง และขณะนี้มีไฟป่าหลายสิบแห่งกำลังลุกไหม้ในภูมิภาคนี้

เช่นเดียวกัน รัฐโอเรกอนซึ่งเป็นเพื่อนบ้านทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย กำลังต่อสู้กับไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศ โดยได้ทำลายป่าไปกว่า 268,000 เอเคอร์ (ประมาณ 678,040 ไร่) และต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ชนบท

เปลวไฟที่โหมกระหน่ำได้สร้างกลุ่มควันขนาดใหญ่ ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศไปไกลถึงรัฐไอดาโฮซึ่งอยู่ติดกัน และไฟป่ายังเกิดขึ้นในแคนาดาตะวันตกอีกด้วย

ภูมิภาคอเมริกาเหนือตะวันตกได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศแปรปรวนมากขึ้นเรื่อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและภาวะโลกร้อน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลของมนุษย์.