โจ ไบเดนจะกดดันเบนจามิน เนทันยาฮูให้ลงนามข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซา เพื่อยุติความยืดเยื้อก่อนก้าวลงจากตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ
นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล (ล่าง) กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม (Photo by ROBERTO SCHMIDT / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ และมีกำหนดเข้าพบหารือกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในประเด็นสงครามฉนวนกาซา
นอกจากนี้ เนทันยาฮูจะเข้าพบกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่จากพรรคเดโมแครต ที่ทำเนียบขาวในวันพฤหัสบดี
ความสัมพันธ์ระหว่างไบเดนและเนทันยาฮูตึงเครียดในระยะหลัง เนื่องจากพฤติกรรมของอิสราเอลในสงครามที่ไม่ยอมลดราวาศอกในสนามรบ แม้ว่าประธานาธิบดีสหรัฐจะยังคงให้การสนับสนุนทางทหารและการเมืองต่อพันธมิตรสำคัญของในตะวันออกกลางก็ตาม
ในขณะที่ไบเดนกล่าวว่าเขาต้องการทำข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวตัวประกันตลอดช่วงหกเดือนที่ผ่านมา แต่เนทันยาฮูยังคงไม่ตอบรับ ทำให้สถานการณ์ยืดเยื้อจนอาจลากยาวไปหลังเลือกตั้งปลายปีนี้ที่โจ ไบเดนจะไม่ได้กลับสู่ทำเนียบขาวอีกแล้ว ซึ่งรูปการณ์อาจกลายเป็นโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะเป็นผู้ดำเนินนโยบายกับสงครามครั้งนี้ในทิศทางที่ไม่อาจล่วงรู้ได้
เนทันยาฮูจะจัดการเจรจากับผู้นำสหรัฐฯ ในห้องทำงานรูปไข่ เวลา 13.00 น. และทั้งสองจะร่วมพูดคุยกับครอบครัวของตัวประกันสหรัฐฯ ที่ถูกจับในฉนวนกาซาในลำดับต่อจากนั้น
ก่อนเข้าพบไบเดน เนทันยาฮูได้รับเชิญให้กล่าวสุนทรพจน์ต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งเขาให้คำมั่นว่าจะเอาชนะกลุ่มฮามาสได้อย่างแน่นอน ท่ามกลางสถานการณ์ล่าสุดที่กองทัพอิสราเอลเพิ่งเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต 5 รายที่ถูกคุมขังในฉนวนกาซานับตั้งแต่การโจมตีเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ระหว่างปฏิบัติการในเมืองข่าน ยูนิส
โจ ไบเดนเคยกล่าวไว้ว่า เขาให้ความสำคัญสูงสุดต่อประเด็นขัดแย้งในฉนวนกาซา
"ผมจะทำงานต่อไปเพื่อยุติสงครามในฉนวนกาซา, นำตัวประกันทั้งหมดกลับบ้านเพื่อนำสันติภาพและความมั่นคงมาสู่ตะวันออกกลาง และยุติสงครามครั้งนี้" ไบเดนกล่าว
เจ้าหน้าที่อาวุโสฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันพุธว่าการเจรจาข้อตกลงฉนวนกาซาอยู่ในขั้นตอนสุดท้าย และไบเดนจะพยายามรวบตึงและกดดันเนทันยาฮูให้ยอมตกลงให้ได้
การหยุดยิงที่เป็นไปได้ในขณะนี้ขึ้นอยู่กับประเด็นบางประการเกี่ยวกับวิธีการที่ข้อตกลงจะมีผลบังคับใช้ โดยกลุ่มฮามาสได้ผ่อนปรนข้อเรียกร้องให้อิสราเอลถอนตัวออกจากฉนวนกาซาแล้ว คงเหลือแต่ทางฝั่งอิสราเอลที่ยังไม่ยอมถอยจากความต้องการสูงสุดของตัวเอง
แต่ด้วยสัญญาณบ่งชี้ว่าสถานการณ์โลกจะดำเนินต่อไปโดยไม่มีไบเดน เนทันยาฮูจึงถูกกำหนดให้พบปะกับแฮร์ริสในอีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ แฮร์ริสเคยแสดงความไม่เห็นด้วยเกี่ยวกับพฤติกรรมการทำสงครามของอิสราเอล ทำให้เกิดการคาดเดาว่าเธออาจจะเปลี่ยนนโยบายไปเป็นอีกแบบ ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
เช่นเดียวกับโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเต็งประธานาธิบดีคนต่อไปจากพรรครีพับลิกันที่มีกำหนดพบกับเนทันยาฮูที่บ้านพักของเขาในฟลอริดาวันศุกร์นี้
ไบเดนให้การสนับสนุนอิสราเอลอย่างแน่วแน่มาตลอดตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม แต่เริ่มวิพากษ์วิจารณ์อิสราเอลมากขึ้นในระยะหลังเกี่ยวกับจำนวนผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์ในการบุกโจมตีฉนวนกาซา และตำหนิความพยายามในการปิดกั้นความช่วยเหลือที่ส่งผ่านไปยังดินแดนที่ประสบภัยครั้งนี้
ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เปิดเผยแผนการหยุดยิงในเดือนพฤษภาคม แต่การเจรจาระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสกลับไม่เดินไปสู่จุดสิ้นสุดเสียที และการโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่ดังกล่าวยังคงดำเนินต่อไป
การโจมตีของกลุ่มฮามาสเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,197 รายในอิสราเอล และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันในวันดังกล่าว 251 คน โดน 111 คนยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในฉนวนกาซา รวมถึง 39 รายที่ทหารระบุว่าเสียชีวิตแล้ว
ขณะที่การตอบโต้เอาคืนตลอด 9 เดือนของอิสราเอลทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 39,100 รายถูกสังหาร โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ