ท่วมหนัก! ไต้ฝุ่นแคมีพัดผ่านฟิลิปปินส์ สร้างความเสียหาย

ไต้ฝุ่นแคมีทวีความรุนแรงมากขึ้น ทำให้เกิดฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์, น้ำท่วมฉับพลันในกรุงมะนิลา และดินถล่มในพื้นที่ภูเขา

ชาวฟิลิปปินส์เร่งอพยพออกจากบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม ในหมู่บ้านทูมานา เมืองมาริกินา ทางตะวันออกของกรุงมะนิลาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ท่ามกลางฝนตกหนักที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นแคมี (Photo by Ted ALJIBE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 24 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่น "แคมี" ทวีความรุนแรงมากขึ้นขณะพัดผ่านประเทศฟิลิปปินส์ ทำให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำท่วมฉับพลัน

ในกรุงมะนิลาที่มีประชากรหนาแน่น เจ้าหน้าที่กู้ภัยถูกส่งไปทั่วทั้งเมืองเพื่อช่วยอพยพผู้คนออกจากบ้านเรือนในบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ หลังจากฝนตกหนักทำให้ถนนกลายเป็นแม่น้ำและทำให้ยานพาหนะติดแหง็กคาที่

ระดับน้ำที่สูงอย่างต่อเนื่องสร้างความลำบากให้กับการกู้ภัยและอพยพ จนทางการกรุงมะนิลาต้องประกาศภาวะภัยพิบัติ และอนุมัติงบประมาณในการบรรเทาทุกข์

สถานที่ราชการปิดทำการและชั้นเรียนถูกระงับ เที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศอย่างน้อย 80 เที่ยวบินถูกยกเลิก และหลายหมื่นครัวเรือนไม่มีไฟฟ้า ขณะที่ห้างสรรพสินค้าบางแห่งถูกใช้เป็นที่พักพิงชั่วคราวแก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ

เจ้าหน้าที่ภัยพิบัติในเขตชานเมืองมะนิลา กล่าวกับเอเอฟพีว่า "หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วม เราจึงส่งหน่วยกู้ภัยกระจายไปทั่วทั้งเมืองที่มีผู้คนจำนวนมากขอความช่วยเหลือ"

"เราได้รับแจ้งเมื่อคืนนี้ว่าฝนจะไม่ตก แล้วจู่ๆ ฝนก็เทลงมา เราเลยตกใจมาก ขณะนี้มีการค้นหาและช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง"

นักพยากรณ์อากาศระบุว่า ไต้ฝุ่นแคมีอยู่ระหว่างการพัดผ่านฟิลิปปินส์และกำลังมุ่งหน้าไปยังไต้หวัน ทำให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่เกิดขึ้นตามปกติในช่วงเวลานี้ของปีมีความรุนแรงมากขึ้น

"โดยปกติแล้วช่วงพีคของฤดูฝนคือเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม และบังเอิญเกิดไต้ฝุ่นในน่านน้ำตะวันออกของฟิลิปปินส์ จึงทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้เพิ่มมากขึ้น" นักพยากรณ์กล่าว และเสริมว่า ฝนที่ตกมากกว่า 200 มิลลิเมตรในเมืองหลวงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถือว่าไม่ใช่เรื่องปกติ

หน่วยงานพยากรณ์คาดว่าจะมีฝนตกหนักเพิ่มขึ้นในวันพฤหัสบดี

มีรายงานเหตุดินถล่มคร่าชีวิตหญิงตั้งครรภ์ 1 รายและเด็ก 3 รายในจังหวัดบาทังกัส ทางใต้ของกรุงมะนิลา และปิดกั้นถนนสายหลัก 3 สายในจังหวัดเบงเกต

นั่นทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนักทั่วพื้นที่ของประเทศในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นเป็น 12 ราย ขณะที่ผู้คนหลายหมื่นต้องหลบภัยอยู่ในศูนย์อพยพ

ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์สั่งให้เจ้าหน้าที่ตอบสนองภัยพิบัติตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีอาหารสำรองเพียงพอสำหรับพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด

ย่านชุมชนใกล้อ่าวมะนิลาได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยถนนส่วนใหญ่จมอยู่ใต้น้ำ และประชาชนมากกว่า 2,000 คนต้องหลบหนีออกจากพื้นที่อย่างทุลักทุเล

ทั้งนี้ ในแต่ละปีมีพายุใหญ่หรือไต้ฝุ่นประมาณ 20 ลูกเข้าถล่มฟิลิปปินส์หรือน่านน้ำโดยรอบ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน และทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคน.

เพิ่มเพื่อน