จีนมุ่งแก้ปัญหาการว่างงานของเยาวชนเป็น 'นโยบายสำคัญสูงสุด'

บรรยากาศงานมหกรรมจัดหางานในนครเซี่ยงไฮ้เมื่อปลายเดือนพฤษภาคม (Photo by Hector RETAMAL / AFP)

อัตราการว่างงานของคนรุ่นใหม่ที่สูงอย่างต่อเนื่องของจีน กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บอกกับแกนนำระดับสูงของพรรคคอมมิวนิสต์ (ซีซีพี) ว่า ควรให้ความสำคัญเป็น 'ลำดับสูงสุด'

นักวิเคราะห์หลายคนมองว่าคำพูดของผู้นำจีนเป็นสัญญาณของการปฏิรูปที่กำลังดำเนินการก่อนการประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการประชุมที่จะมีการเปิดเผยการเปลี่ยนแปลงสำคัญในทิศทางนโยบายเศรษฐกิจ

ข้อมูลอย่างเป็นทางการเผยว่าการว่างงานของคนรุ่นใหม่จีนอยู่ที่ร้อยละ 14.2 ในเดือนพฤษภาคม และเมื่อเดือนที่แล้ว มีนักศึกษาอีก 11.8 ล้านคนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย ซึ่งจะไหลทะลักสู่ตลาดแรงงานในลักษณะคอขวด

ตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.3 อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงกลางปี ​​2566 ก่อนที่ทางการจีนจะหยุดเผยแพร่ตัวเลขว่างงานรายเดือนไประยะหนึ่ง และกลับมาเปิดเผยข้อมูลอีกครั้งในเดือนธันวาคมหลังจากปรับวิธีการคำนวณ

บริษัทด้านการบริการทรัพยากรบุคคลเป็นหนึ่งในหน่วยธุรกิจจัดหางานขนาดเล็กที่หน่วยงานท้องถิ่นใช้เป็นฐานรองรับการหลั่งไหลเข้ามาของนักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย

นายจ้างบางกลุ่มให้ความเห็นว่า นักศึกษาวิทยาลัยรุ่นใหม่ส่วนใหญ่มีความคาดหวังสูงเกินไปทั้งในแง่ค่าตอบแทนและลักษณะงาน ทำให้เกิดการเลือกงาน ทั้งๆที่ตำแหน่งงานพื้นฐานยังมีอีกมากในตลาด ขณะที่งานหรูหรามีแต่คนเข้าคิวรอ

สอดคล้องกับความเห็นของผู้หางานรุ่นใหม่ที่กล่าวว่า แม้งานพื้นฐานทั่วไปจะมีอยู่มาก แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้น การเลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการนั้นเป็นสิ่งที่จะเติมเต็มให้ชีวิตได้มากกว่า ดั้งนั้นจึงเป็นเรื่องยากที่จะหางานที่ตรงกับวุฒิการศึกษาและแรงบันดาลใจของตนเอง

ผู้นำจีนเคยกล่าวถึงประเด็นการว่างงานในหมู่คนรุ่นใหม่ไว้ว่า รัฐบาลและภาคเอกชนควรร่วมมือกันสร้างงานเพิ่มมากขึ้นและเร่งด่วน เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ประยุกต์ใช้สิ่งที่ได้เรียนรู้และสิ่งที่พวกเขาเชี่ยวชาญ

ปัญหาดังกล่าวถูกแขวนอยู่เหนือการบริหารของรัฐบาลปักกิ่งมาระยะหนึ่งแล้ว เมื่อประกอบกับภาวะการบริโภคที่ต่ำอย่างต่อเนื่องและวิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์ที่เรื้อรัง ทำให้สถานการณ์การว่างงานถูกมองว่าเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้จีนฟื้นตัวอย่างไม่สมดุลหลังการระบาดของโรคโควิด

นักวิเคราะห์เชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงนโยบายจะเกิดขึ้นแน่นอน และคาดว่านโยบายที่มุ่งลดการว่างงานของคนรุ่นใหม่จะเป็นเสาหลักสำคัญของการอภิปรายในที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3 ตามที่ผู้นำจีนเคยกล่าวถึงเรื่องนี้ไว้หลายครั้งว่า คนหนุ่มสาวควรได้รับการสนับสนุนให้หางานหรือเริ่มต้นธุรกิจในสาขาอุตสาหกรรมหลัก และควรขยายช่องทางที่มุ่งเน้นตลาดและสังคมเพื่อให้คนหนุ่มสาวได้แสดงความสามารถ

ขณะที่ภาคเอกชนต่างคาดหวังให้รัฐบาลเพิ่มเงินอุดหนุนค่าจ้างเพื่อโน้มน้าวบริษัทต่างๆ ให้จ้างผู้สำเร็จการศึกษาล่าสุด และสร้างตำแหน่งงานให้กับนักศึกษามากขึ้น รวมทั้งปฏิรูปนโยบายอุตสาหกรรมและการศึกษาในระยะยาว เพื่อให้มีความสอดคล้องกันระหว่างทักษะของผู้สำเร็จการศึกษาและความต้องการของนายจ้าง

ขณะนี้มีการผลักดันให้เติมเต็มบทบาทที่สอดคล้องกับลำดับความสำคัญของนโยบายที่สำคัญ หรือในกรณีที่ขาดแคลนทักษะ เช่น การยกระดับอุตสาหกรรมและนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์

เนื่องจากโอกาสในการทำงานของผู้สำเร็จการศึกษาสาขาสังคมวิทยา, วารสารศาสตร์ และนิติศาสตร์ กำลังลดน้อยลง โปรแกรมการฝึกอบรมที่รัฐบาลสนับสนุนบางประเภทอาจจำเป็นสำหรับการเติมเต็มบทบาทให้เป็นที่ต้องการมากขึ้น

ภาคเอกชนที่ครั้งหนึ่งเคยดำเนินการอย่างมีอิสระ ได้ชะลอตัวลงอย่างมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการปราบปรามของรัฐบาลในอดีตต่อบริษัทต่างๆ รวมถึงยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีและบริษัทสอนพิเศษเอกชน

ในช่วงหลัง คนหนุ่มสาวจำนวนมากจึงเลือกที่จะเรียนเพื่อสอบงานราชการซึ่งถูกมองว่าเป็นทางเลือกที่มั่นคงกว่า แต่การแข่งขันมีความเข้มข้นสูงมากและจำนวนนักศึกษาระดับปริญญาตรีก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้เกิดลักษณะคอขวดในงานประเภทนี้

บางทีประเด็นความไม่สมดุลของตลาดแรงงานอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนที่แนวคิดด้วยว่า ความยากลำบากไม่ได้อยู่ที่การหางาน แต่ความคาดหวังต่างหากที่เป็นปัญหา ... การได้มาซึ่งอาชีพที่เหมาะสมในแง่ของระดับเงินเดือนและผลประโยชน์จึงเป็นสิ่งที่เพียงพอแล้วในระดับเริ่มต้น.

เพิ่มเพื่อน