อิสราเอลเอาคืนกลุ่มกบฏเยเมน หลังส่งโดรนโจมตีเทลอาวีฟ

เครื่องบินรบของอิสราเอลโจมตีท่าเรือโฮเดดาของเยเมนที่กลุ่มฮูตีควบคุมอยู่เมื่อวันเสาร์ หนึ่งวันหลังจากกรุงเทลอาวีฟถูกโจมตีด้วยโดรนของกลุ่มกบฏที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน และมีพลเรือนเสียชีวิต 1 ราย

กลุ่มไฟขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นหลังอิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีในโฮเดดาซึ่งเป็นเมืองท่าของกลุ่มกบฏเยเมน เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม (Photo by ANSARULLAH MEDIA CENTRE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลส่งเครื่องบินรบโจมตีท่าเรือโฮเดดาของเยเมนที่กลุ่มฮูตีควบคุมอยู่ เพื่อตอบโต้การถูกโจมตีด้วยโดรนในกรุงเทลอาวีฟเมื่อหนึ่งวันก่อนหน้า

การโจมตีดังกล่าวซึ่งก่อให้เกิดเปลวไฟโหมกระหน่ำและกลุ่มควันดำ ถือเป็นการโจมตีครั้งแรกโดยอิสราเอลต่อประเทศที่ยากจนที่สุดของคาบสมุทรอาหรับ ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 2,000 กิโลเมตร

"เลือดของพลเมืองอิสราเอลมีราคาที่ผู้พรากไปจะต้องจ่าย" โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอลกล่าว พร้อมเสริมว่าปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มฮูตีจะตามมาอีกหากพวกเขาโจมตีอิสราเอล

กัลแลนต์กล่าวว่าการโจมตีที่โฮเดดายังเป็นการเตือนไปยังกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านทั่วตะวันออกกลาง ซึ่งใช้ข้ออ้างผสมโรงกับการช่วยเหลือชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา

"ไฟที่กำลังลุกไหม้ในเมืองโฮเดดาขณะนี้เห็นได้ทั่วตะวันออกกลาง ถือเป็นการส่งข้อความที่ชัดเจน" เขากล่าว

นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู สะท้อนคำเตือนดังกล่าวในการปราศรัยทางโทรทัศน์ กล่าวว่า "ใครก็ตามที่ทำร้ายเรา จะต้องชดใช้อย่างสาสมต่อการรุกรานนั้น"

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังถูกโจมตีเมื่อวันศุกร์ในเทลอาวีฟ กัลแลนต์ให้คำมั่นว่าอิสราเอลจะตอบโต้กลุ่มฮูตีที่ควบคุมพื้นที่เยเมน รวมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ชายฝั่งทะเลแดงด้วย

แดเนียล ฮาการี โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวว่า เครื่องบินไอพ่น F-15 ได้ดำเนินการโจมตีเป้าหมายในเยเมน และทั้งหมดก็กลับสู่ฐานทัพอย่างปลอดภัย

ฮาการีกล่าวหากลุ่มฮูตีว่าใช้โฮเดดาเป็นเส้นทางหลักในการถ่ายโอนอาวุธของอิหร่าน เช่นเดียวกับโดรนที่ใช้ในการโจมตีอิสราเอลเมื่อวันศุกร์

ในแถลงการณ์บนโซเชียลมีเดีย โมฮัมเหม็ด อับดุลซาลาม เจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮูตี ระบุว่า อิสราเอลรุกรานเยเมนอย่างโหดร้าย และการโจมตีดังกล่าวมุ่งเป้าไปที่โรงงานจัดเก็บเชื้อเพลิงและโรงไฟฟ้าในเมืองโฮเดดา เพื่อกดดันเยเมนให้หยุดสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในสงครามฉนวนกาซา

กระทรวงสาธารณสุขที่ดำเนินการโดยกลุ่มฮูตีระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 87 รายจากการโจมตีของอิสราเอล ซึ่งส่วนใหญ่มีบาดแผลไฟไหม้สาหัส และในเวลาต่อมามีรายงานผู้เสียชีวิต 3 ราย

ก่อนหน้านี้ สหรัฐและอังกฤษได้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อกลุ่มฮูตีหลายครั้งเพื่อตอบโต้ที่กลุ่มดังกล่าวโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดง แต่การโจมตีในเยเมนเมื่อวันเสาร์ สหรัฐปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง

"สหรัฐไม่เกี่ยวข้องกับการโจมตีเยเมนในวันนี้ และเราไม่ได้ประสานงานหรือช่วยเหลืออิสราเอลในการโจมตีดังกล่าว" โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐกล่าว และเสริมว่า "เราได้ติดต่อกับอิสราเอลอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ภายหลังการโจมตีในกรุงเทลอาวีฟซึ่งทำให้พลเรือนอิสราเอลเสียชีวิตเมื่อเช้าวันศุกร์ เราตระหนักและรับทราบสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเองอย่างเต็มที่"

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจสูงสุด เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายตัวของความขัดแย้งในภูมิภาคนี้

แต่โมฮัมเหม็ด อัล-บูไคติ สมาชิกโปลิตบูโรของกลุ่มฮูตีขู่ว่า จะแก้แค้นต่อการโจมตีที่โฮเดดา

"หน่วยงานไซออนนิสต์ (อิสราเอล) จะต้องชดใช้ต่อการกำหนดเป้าหมายสิ่งอำนวยความสะดวกของพลเรือน และเราจะตอบโต้มากขึ้นไปอีก" เขากล่าวในโพสต์บนโซเชียลมีเดีย

กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ พันธมิตรชาวเลบานอนของกลุ่มฮูตี เตือนว่าการโจมตีของอิสราเอลต่อเมืองโฮเดดาถือเป็นจุดเปลี่ยนที่อันตรายในเก้าเดือนของสงครามฉนวนกาซา

"การกระทำที่โง่เขลาของศัตรูไซออนิสต์ถือเป็นการประกาศการทำสงครามระยะใหม่" กลุ่มฮิซบุลเลาะห์ซึ่งแลกเปลี่ยนการยิงเกือบทุกวันกับกองทัพอิสราเอลตลอดช่วงสงคราม กล่าว

ท่าเรือโฮเดดาซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสำหรับการนำเข้าความช่วยเหลือระหว่างประเทศสำหรับพื้นที่ที่ถูกยึดครองโดยกลุ่มกบฏในเยเมน แทบไม่เคยถูกแตะต้องเลยในช่วงสงครามที่ยืดเยื้อยาวนานนับทศวรรษระหว่างกลุ่มฮูตีกับรัฐบาลเยเมนที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติซึ่งสนับสนุนโดยประเทศเพื่อนบ้านอย่างซาอุดีอาระเบีย

สงครามระหว่างรัฐและกบฏทำให้ชาวเยเมนหลายล้านคนต้องพึ่งพาความช่วยเหลือที่ส่งมาทางท่าเรือดังกล่าว เช่นเดียวกับการขนส่งทางพาณิชย์ในภูมิภาคนี้

"ตอนนี้หลายฝ่ายกลัวว่าความขัดแย้งที่ลุกลามจะทำให้ความมั่นคงด้านอาหารและสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่วิกฤตอยู่แล้วในเยเมนตอนเหนือยิ่งรุนแรงขึ้น เนื่องจากการขนส่งทางพาณิชย์ส่วนใหญ่ใช้เส้นทางผ่านท่าเรือนี้" โมฮัมเหม็ด อัลบาชา นักวิเคราะห์อาวุโสประจำตะวันออกกลางของกลุ่มนาวันตีซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ กล่าว.