เวียดนามสูญเสียเหงียน ฟู่ จ่อง ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ ในวัย 80 ปี

เหงียน ฟู่ จ่อง เลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์และผู้นำทางการเมืองของเวียดนามถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวัย 80 ปี หลังประกาศพักงานทางการเมืองเพื่อฟื้นฟูสุขภาพเพียงหนึ่งวันก่อนหน้า

เหงียน ฟู่ จ่อง เลขาธิการใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ถึงแก่อสัญกรรมในวัย 80 ปี เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม (Photo by Nhac NGUYEN / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามประกาศการสูญเสียเหงียน ฟู่ จ่อง เลขาธิการใหญ่และผู้นำทางการเมืองวัย 80 ปี

แถลงการณ์ระบุว่า เหงียน ฟู่ จ่องซึ่งเป็นผู้นำพรรคฯมาตั้งแต่ปี 2554 ถึงแก่อสัญกรรมเนื่องจากความชราภาพและอาการป่วยหนัก ที่โรงพยาบาลทหารในกรุงฮานอย

การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากที่พรรคฯเพิ่งประกาศการหยุดพักบทบาทการทำงานของเขาเพื่อฟื้นสุขภาพร่างกาย และให้ประธานาธิบดีโตเลิมเข้ารับตำแหน่งผู้นำรักษาการช่วงที่เขารักษาตัว

พรรคฯระบุว่า โตเลิมได้รับมอบหมายให้เป็นผู้นำในคณะกรรมการกลางพรรค, โปลิตบูโร และสำนักเลขาธิการ โดยเลิมเองก็เป็นผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะสืบทอดตำแหน่งของเหงียน ฟู่ จ่อง ในการประชุมสมัชชาพรรคฯปี 2569 อยู่แล้ว

พรรคฯไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการป่วยของเหงียน ฟู่ จ่อง และแจ้งแต่เพียงว่าจะออกแถลงการณ์พิเศษเกี่ยวกับการจัดพิธีศพระดับชาติในภายหลัง

เหงียน ฟู่ จ่องเป็นเลขาธิการพรรคฯคนแรกที่ถึงแก่อสัญกรรมในตำแหน่ง นับตั้งแต่การเสียชีวิตของเล หยวนในปี 2529

เขายังเป็นผู้นำคนแรกที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคฯติดต่อกันสามสมัย ภายหลังการเปิดเสรีเศรษฐกิจในปี 2529

สถานทูตสหรัฐฯ ออกแถลงการณ์เพื่อไว้อาลัยการสูญเสียผู้นำที่มีวิสัยทัศน์ซึ่งทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเวียดนามและสหรัฐอเมริกามานานหลายทศวรรษ เช่นเดียวกับพรรคคอมมิวนิสต์ของจีนที่ได้ส่งข้อความแสดงความเสียใจไปยังพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม

ระบอบคอมมิวนิสต์ของเวียดนามซึ่งอยู่ท่ามกลางการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยรัฐมนตรี, ผู้นำทางธุรกิจ และประธานาธิบดี 2 คน ต่างถูกปลดและถอดถอนจากการรณรงค์ต่อต้านการทุจริตครั้งใหญ่

หลังจากนี้ โตเลิม อดีตรัฐมนตรีกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป จะก้าวขึ้นมามีบทบาทสำคัญอย่างเต็มที่ทั้งในพรรคฯและการบริหารการเมืองของประเทศ ท่ามกลางชื่อเสียงในเรื่องการใช้กฏหมายเป็นเครื่องมือในการโค่นล้มคู่แข่งทางการเมือง.

เพิ่มเพื่อน