เหตุขัดข้องครั้งใหญ่ได้สร้างความเสียหายให้กับระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลกเมื่อวันศุกร์ ทำให้เที่ยวบินต้องงดบินในสหรัฐอเมริกา, รายการโทรทัศน์ในสหราชอาณาจักรต้องหยุดชะงัก และส่งผลกระทบต่อระบบโทรคมนาคมในออสเตรเลีย
เครื่องชำระเงินด้วยตนเองของซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในออสเตรเลียแสดงข้อความขัดข้องในการให้บริการ โดยได้รับผลกระทบจากระบบไอทีล่มทั่วโลก เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม (Photo by Saeed KHAN / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) เกิดความขัดข้องในหลายพื้นที่ทั่วโลก สร้างผลกระทบต่อการให้บริการเที่ยวบิน, ระบบออกอากาศโทรทัศน์, ระบบโทรคมนาคม และการดำเนินงานของบริษัทต่างๆ
สายการบินรายใหญ่ของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง Delta, United และ American Airlines ระงับเที่ยวบินทั้งหมดในวันศุกร์ เนื่องจากปัญหาด้านการสื่อสาร
เช่นเดียวกับเที่ยวบินในสนามบินเบอร์ลินและบรันเดินบวร์กของเยอรมนีที่ถูกระงับการดำเนินการเนื่องจากเผชิญปัญหาทางเทคนิค และยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้งเมื่อใด
สนามบินทั้งหมดในสเปนกำลังประสบปัญหาหยุดชะงักจากเหตุขัดข้องด้านไอที ซึ่งสร้างผลกระทบต่อบริษัทหลายแห่งทั่วโลกในเวลาเดียวกัน
สนามบินของฮ่องกงออกแถลงการณ์ว่า สายการบินบางแห่งได้รับผลกระทบ โดยหน่วยงานของรัฐเชื่อมโยงการหยุดชะงักดังกล่าวเข้ากับการหยุดให้บริการของบริษัทไมโครซอฟต์
ผู้ให้บริการรถไฟรายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร เตือนถึงการยกเลิกเที่ยวรถไฟที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากปัญหาด้านไอที ขณะที่รูปภาพทางออนไลน์เผยให้เห็นการต่อคิวจำนวนมากของผู้โดยสารที่สนามบินซิดนีย์ในออสเตรเลียอันเนื่องมาจากปัญหาเดียวกัน
ผู้ประสานงานความปลอดภัยทางไซเบอร์แห่งชาติของออสเตรเลียกล่าวว่า "การขัดข้องทางเทคนิคครั้งใหญ่มีสาเหตุมาจากปัญหาของแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์บุคคลที่สาม" และเสริมว่า ยังไม่มีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการมีส่วนร่วมของแฮ็กเกอร์
สถานีโทรทัศน์สกายนิวส์ในสหราชอาณาจักรระบุว่า ข้อขัดข้องดังกล่าวทำให้ทางสถานีฯต้องยุติการออกอากาศข่าวภาคเช้า ขณะที่สถานีโทรทัศน์ ABC ของออสเตรเลีย ก็รายงานเหตุการณ์ขัดข้องครั้งใหญ่ในทำนองเดียวกัน
เครื่องชำระเงินด้วยตนเองบางแห่งที่เครือซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของออสเตรเลียใช้งานไม่ได้ สร้างความปั่นป่วนต่อทั้งร้านค้าและลูกค้าจำนวนมาก
สื่อนิวซีแลนด์รายงานว่า ธนาคารและระบบคอมพิวเตอร์ภายในรัฐสภาของประเทศก็เผชิญปัญหาแบบเดียวกัน
บริษัทโทรคมนาคมของออสเตรเลีย 'Telstra' ให้ข้อมูลว่า การหยุดทำงานของระบบไอทีมีสาเหตุมาจากปัญหาระดับโลกที่เกิดจากซอฟต์แวร์ที่มีต้นตอจากไมโครซอฟต์ (Microsoft) และบริษัทรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ 'CrowdStrike'
ขณะที่ไมโครซอฟต์ระบุในแถลงการณ์ว่า กำลังดำเนินการบรรเทาผลกระทบ เพื่อตอบสนองต่อปัญหาการบริการ
"บริการของเรายังคงได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง และยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าระบบไอทีขัดข้องที่เกิดทั่วโลกนั้นมาจากบริษัทของเรา" ไมโครซอฟต์กล่าวในโพสต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย
ด้านบริษัท CrowdStrike ยังไม่มีความเคลื่อนไหวหรือแสดงความคิดเห็นใดๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รัฐบาลตีปี๊บผลงานโบว์แดงอีกรอบ! เศรษฐาหารือ 'ไมโครซอฟท์-เทสลา'
'ชัย' เผยรัฐบาลพยายามต่อยอดผลหารือ นายกฯ กับภาคเอกชนชั้นนำของโลก เร่งเดินหน้าสานต่อให้เกิดการตกลงทางธุรกิจให้เกิดผลเป็นรูปธรรม นำประโยชน์สู่ประเทศโดยเร็ว