เจ้าหน้าที่กู้ภัยตรวจสอบจุดเกิดเหตุเครื่องบินของสายการบิน มาเลเซีย แอร์ไลน์ที่บรรทุกผู้โดยสาร 298 คนจากกรุงอัมสเตอร์ดัมไปยังกัวลาลัมเปอร์ตกใกล้กับเมืองชัคตาร์ ทางตะวันออกของยูเครน เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2557 (Photo by DOMINIQUE FAGET / AFP)
บรรดาญาติๆ รวมตัวกันในชุดดำใกล้กรุงอัมสเตอร์ดัมเมื่อวันพุธ เพื่อไว้อาลัยเนื่องในวันครบรอบ 10 ปีเที่ยวบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ที่ถูกยิงตกจนเสียชีวิตทั้งลำ ขณะที่ความหวังว่าจะได้รับความยุติธรรมค่อยๆเลือนราง
กาลเวลาเคลื่อนผ่านทศวรรษแล้ว แต่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบในการยิงเครื่องบินตกยังคงใช้ชีวิตอยู่นอกกรงขัง เนื่องจากรัสเซียปฏิเสธที่จะส่งตัวชาย 3 คนที่ถูกศาลดัตช์ตัดสินว่ามีความผิดจากการกระทำของพวกเขาในเหตุเครื่องบินตก เพื่อมาดำเนินคดี และเมื่อปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่สืบสวนระหว่างประเทศก็หยุดติดตามคดีดังกล่าวโดยระบุว่าไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยเพิ่มเติม
บรรดาญาติและครอบครัวที่หลงเหลืออยู่จำนวนหลายร้อยคน ตลอดจนตัวแทนของรัฐบาลและบุคคลสำคัญ ซึ่งหลายคนแต่งกายด้วยชุดสีดำ เดินทางมาร่วมงานรำลึกที่อนุสรณ์สถานแห่งหนึ่งใกล้ท่าอากาศยานอัมสเตอร์ดัมสคิปโฮลซึ่งเป็นต้นทางของเที่ยวบิน MH17 ในวันที่ 17 กรกฎาคม 2557 จากนั้นไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำนี้ก็ถูกยิงตกบริเวณน่านฟ้ายูเครนตะวันออกโดยขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ BUK ที่ผลิตโดยรัสเซีย ขณะที่เครื่องบินแล่นตามเส้นทางบินมุ่งหน้าสู่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยผู้โดยสารทั้งหมด 298 รายเสียชีวิตยกลำ
พิธีรำลึกที่อนุสรณ์สถานดังกล่าวมีการถ่ายทอดสดทางสถานีโทรทัศน์แห่งชาติตั้งแต่เวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ในขณะที่เมืองหลักหลายแห่งของเนเธอร์แลนด์ลดธงครึ่งเสาเพื่อร่วมไว้อาลัย
มีการอ่านแถลงการณ์และรายชื่อของผู้เสียชีวิตทั้งหมด โดยเหยื่อเหล่านั้นเป็นชาวดัตช์ 196 ราย, ชาวมาเลเซีย 43 ราย และชาวออสเตรเลีย 38 ราย
นอกจากนี้ พิธีรำลึกยังจัดขึ้นตามสถานที่ต่างๆของโลกอีกด้วย เช่น พิธีในรัฐสภาออสเตรเลียซึ่งสมาชิกในครอบครัวร่วมวางดอกไม้และพวงหรีดทั้งน้ำตา โดยเพนนี หว่อง รัฐมนตรีต่างประเทศบอกกับผู้มาร่วมงานว่า ออสเตรเลียจะกดดันให้รัสเซียรับผิดชอบต่อไปอย่างไม่ลดละ
ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ศาลเนเธอร์แลนด์ได้พิพากษาลงโทษจำคุกตลอดชีวิตแก่ชาย 3 คนที่ไม่มาปรากฏตัวต่อหน้าศาล ฐานก่อวินาศกรรมที่ทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวตกเหนือดินแดนซึ่งถูกยึดครองโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลมอสโก ในช่วงแรกของสงครามที่รัสเซียเข้ายึดคาบสมุทรไครเมีย
ผู้ต้องหาอิกอร์ เกอร์กินและเซอร์เกย์ ดูบินสกี ชาวรัสเซีย และลีโอนิด คาร์เชนโก ชาวยูเครน ต่างต้องรับผิดชอบต่อการเคลื่อนย้ายขีปนาวุธ BUK จากฐานทัพทหารในรัสเซียไปยังจุดที่ทำการยิงใส่เครื่องบิน แม้ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นผู้ยิงขีปนาวุธด้วยตนเองก็ตาม ขณะที่โอเลก ปูตาลอฟ ผู้ต้องหาคนที่สี่ ได้รับการยกฟ้อง
แม้ทีมสืบสวนระหว่างประเทศหยุดติดตามคดีดังกล่าวไปแล้ว แต่ข้อสรุปก่อนหน้าได้ระบุไว้ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นผู้อนุมัติการจัดหาขีปนาวุธที่ทำให้เครื่องบินตก
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สหภาพยุโรปเรียกร้องให้รัฐบาลมอสโกยอมรับความรับผิดและรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้ พร้อมให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการคืนความยุติธรรมให้ผู้ตกเป็นเหยื่อ
"หลักฐานที่นำเสนอระหว่างการพิจารณาคดีแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าระบบขีปนาวุธภาคพื้นสู่อากาศที่ใช้ในการยิงเที่ยวบิน MH17 ตกนั้น เป็นของกองทัพสหพันธรัฐรัสเซียอย่างไม่ต้องสงสัย" โจเซฟ บอร์เรลล์ ประธานฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปกล่าว
รัฐบาลมอสโกปฏิเสธที่จะส่งตัวผู้ต้องสงสัยในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน โดยกล่าวว่าการกระทำเช่นนั้นผิดกฎหมายรัสเซีย ขณะที่สถานทูตรัสเซียในกรุงเฮกปฏิเสธความเกี่ยวข้องของตน แต่โบ้ยว่าเป็นความผิดของยูเครน
รัฐบาลมอสโกยังกล่าวหาเนเธอร์แลนด์, ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ว่า "ถูกชี้นำโดยการพิจารณาทางการเมือง และแสวงหาวิธีการต่างๆ เพื่อบังคับประชาคมโลกให้เชื่อว่าเครื่องบินตกเป็นฝึมือของรัสเซีย"
รัฐบาลเคียฟของยูเครนได้ออกมาโต้คำกล่าวหาของรัสเซีย และชี้ว่าเป็นรัสเซียเองที่ก่ออาชญากรรมร้ายแรง และขี้ขลาดเกินกว่าจะยอมรับ
"หลายปีผ่านไป รัสเซียยังคงดำเนินตามเส้นทางนองเลือดของตนโดยเปิดเผยต่อคนทั้งโลก และทำลายชีวิตผู้คนนับล้าน เห็นได้ชัดจากการรุกรานยูเครน"
"สงครามที่ทวีความรุนแรงขึ้นอยู่ในปัจจุบันทำให้เชื่อได้ยากจริงๆ ว่าพวกเขาคนใดคนหนึ่ง (ผู้ต้องสงสัย) จะได้รับโทษในสิ่งที่ก่อไว้ ไม่ว่าจะเร็วๆนี้หรือตลอดไป คงไม่มีวันได้เห็น" รัฐบาลเคียฟกล่าว.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นาโต' เตือนเกาหลีเหนือ กรณีส่งกองทหารช่วยเหลือรัสเซีย
ยูเครนและเกาหลีใต้รายงานว่า มีทหารเกาหลีเหนือมากถึง 12,000 นายเข้าร่วมสงครามช่วยเหลือประธานาธิบดีปูติน จนถึง
'โดนัลด์ ทรัมป์' อาจเคยแอบส่งชุดตรวจไวรัสโคโรนาให้กับ 'วลาดิมีร์ ปูติน'
หนังสือเล่มใหม่เผยให้เห็นการติดต่อระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์กับเครมลิน ดังนั้นเขาอาจยังรักษาความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับวลา
'ปูติน' เพิ่มกำลังทหารเป็นประมาณ 2.4 ล้านคน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินลงนามในกฤษฎีกา เพิ่มกำลังทหารอีกราว 180,000 นายในอีกไม่ช้านี้ เพื่อเสริมกองทัพรัสเซีย