โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน และเลือกผู้ภักดีฝ่ายขวาเป็นคู่สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในการประชุมใหญ่ของพรรคฯที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายชัยชนะ หลังกระแสพุ่งจากเหตุลอบสังหาร
โดนัลด์ ทรัมป์ และเจ.ดี. แวนซ์ (ขวา) ในฐานะคู่สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการของพรรครีพับลิกัน (Photo by Giorgio Viera and KAMIL KRZACZYNSKI / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า โดนัลด์ ทรัมป์ได้รับการเสนอชื่ออย่างเป็นทางการในฐานะผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน ในการประชุมระดับประเทศของพรรคฯในเมืองมิลวอกี รัฐวิสคอนซิน
ในการนี้ ทรัมป์ประกาศแต่งตั้งเจ.ดี. แวนซ์ วุฒิสมาชิกสหรัฐจากรัฐโอไฮโอวัย 39 ปี ให้เป็นคู่สมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี
"ในฐานะรองประธานาธิบดี เจ.ดี.จะยังคงต่อสู้เพื่อรัฐธรรมนูญของเรา, ยืนหยัดเคียงข้างกองกำลังของเรา และจะทำทุกอย่างที่เขาทำได้เพื่อช่วยทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง" ทรัมป์โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียของตนเอง
ครั้งนึงเจ.ดี. แวนซ์เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมาและผู้วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์อย่างรุนแรง แต่ในภายหลังได้กลายมาเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนที่น่าเชื่อถือและแน่วแน่ที่สุดของทรัมป์ในสภาคองเกรส
ขณะที่ทรัมป์มั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเขาจะได้หวนคืนสู่ทำเนียบขาวแม้จะยังต้องเผชิญคดีความทางกฎหมายหลายประการและการถูกถอดถอนสองครั้งในช่วงวาระแรกของการดำรงตำแหน่ง แต่สถานการณ์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนกลับแย่กว่าที่คิดจากผลสำรวจที่เป็นไปในทางลบและความกังวลของพรรคเดโมแครตในเรื่องสุขภาพของเขา
คาดว่าแวนซ์จะมุ่งเดินหน้าประชานิยมรูปแบบใหม่ได้ดีภายใต้การนำของทรัมป์ ในฐานะว่าที่รองประธานาธิบดีที่มีประสบการณ์น้อยที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่
แม้เขาจะยอมรับแนวคิดต่อต้านผู้อพยพ แต่แวนซ์ยังอยู่ห่างไกลจากเจ้านายคนใหม่ของเขาในหลายประเด็น รวมถึงเรื่องการทำแท้ง ซึ่งเขายอมรับเฉพาะเงื่อนไขที่ต้องมีกฎหมายรัฐบาลกลางรองรับเท่านั้น
การเข้าร่วมประชุมของทรัมป์เกิดขึ้นในขณะที่ประเทศยังคงสั่นคลอนจากความพยายามที่ล้มเหลวของมือปืนที่จะสังหารทรัมป์ในการชุมนุมที่เพนซิลเวเนียเมื่อวันเสาร์
การพยายามลอบสังหารดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย, บาดเจ็บอีก 2 คน และทรัมป์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่หู
กระแสหนุนนำจากเหตุดังกล่าวทำให้ทรัมป์ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในการเลือกตั้งอย่างเต็มตัว แม้จะยังมีคดีอาญาคาราคาซังอยู่ในศาลนิวยอร์ก แต่ล่าสุดทรัมป์พ้นมลทินไปอีกหนึ่งคดี เมื่อผู้พิพากษายกฟ้องคดีอาญาต่อเขาจากข้อกล่าวหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติเนื่องจากครอบครองเอกสารลับสุดยอดภายหลังออกจากทำเนียบขาว
นั่นทำให้ทรัมป์ยิ่งฮึกเหิมหนักและกล่าวว่า ศาลควรยกฟ้องคดีทางกฎหมายทั้งหมดต่อเขา เพราะเชื่อมาตลอดว่าตัวเขาตกเป็นเป้าหมายด้วยเหตุผลทางการเมือง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
'นายกฯอิ๊งค์' ยกไอแพดคุย 'ทรัมป์' แสดงความยินดีชนะเลือกตั้ง ยันไทยพร้อมทำงานกับสหรัฐฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ นายโดนัลด์ เจ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิ