ขีปนาวุธรัสเซียคร่าชีวิต 36 รายในยูเครน ทำลายโรงพยาบาลเด็กในเคียฟ

รัสเซียโจมตีเมืองต่างๆ ทั่วยูเครนด้วยขีปนาวุธที่คร่าชีวิตผู้คนไป 36 ราย และทำลายโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งในเคียฟ ท่ามกลางเสียงประณามว่าสังหารพลเรือนอย่างโหดเหี้ยม

เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินและกู้ภัย พร้อมด้วยหน่วยแพทย์ กำลังรื้อค้นตามซากปรักหักพังของอาคารโรงพยาบาลเด็กโอคมัตดิต (Ohmatdyt) ที่ถูกทำลาย หลังเหตุโจมตีด้วยขีปนาวุธของรัสเซียในกรุงเคียฟ เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม (Photo by Roman PILIPEY / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 9 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า กองทัพรัสเซียถล่มขีปนาวุธแบบไม่ทันตั้งตัวทั่วยูเครน รวมทั้งทำลายโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่งในกรุงเคียฟ จนมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีในวันเดียว 36 ราย

อาสาสมัครหลายสิบคน รวมถึงเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่กู้ภัยระดมขุดค้นซากปรักหักพังของโรงพยาบาลเด็กโอคมัตดิต เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต หลังโดนโจมตีในเวลากลางวันซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกีกล่าวว่า รัสเซียยิงขีปนาวุธหลายสิบลูกไปยังเมืองต่างๆ 5 เมืองทางตอนใต้และตะวันออกของยูเครน รวมถึงเมืองหลวงกรุงเคียฟด้วย

ทางการยูเครนได้รับรายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 33 รายและบาดเจ็บอีก 136 คนจากการโจมตีด้วยขีปนาวุธ 38 ลูก และมีผู้เสียชีวิตอีก 3 รายจากเหตุเพลิงไหม้ที่เมืองโปครอฟสค์ ทางตะวันออกของประเทศ

กองทัพอากาศยูเครนระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศยิงสกัดขีปนาวุธได้ 30 ลูก

เซเลนสกีเรียกร้องให้มีการประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับเหตุโจมตีดังกล่าว และเรียกร้องให้พันธมิตรของยูเครนตอบสนองต่อการโจมตีของรัสเซียด้วยมาตรการที่หนักขึ้นไปอีก

นอกจากนี้ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องให้ชาติพันธมิตรส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม รวมถึงขีปนาวุธแพทริออตส์ เพื่อช่วยป้องกันจากการโจมตีทางอากาศของรัสเซีย

สหประชาชาติออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยต่อสวัสดิภาพของเด็กและบุคลากรในโรงพยาบาลที่ถูกโจมตี พร้อมประณามการกระทำดังกล่าวของรัสเซียว่าเป็นสิ่งน่ารังเกียจที่ไม่ควรเกิดขึ้นเลย

สหรัฐฯ และสหภาพยุโรปก็ออกโรงประณามเช่นกัน โดยกล่าวว่าการโจมตีด้วยขีปนาวุธอันป่าเถื่อนต่อพลเรือนนับครั้งไม่ถ้วนเป็นสิ่งที่โหดเหี้ยม และรัสเซียควรหยุดการกระทำเช่นนี้หากยังหวังให้เกิดการเจรจาสงบศึก

ทางการเคียฟกล่าวว่า โรงพยาบาลเด็กถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธร่อนของรัสเซียซึ่งมีส่วนประกอบที่ผลิตในประเทศสมาชิกนาโต พร้อมประกาศไว้อาลัยแก่บรรดาผู้เสียชีวิต

ล่าสุด รัสเซียได้ออกมาปกป้องการกระทำของตนเองและโยนความผิดว่าความเสียหายจากขีปนาวุธในเคียฟมีสาเหตุมาจากระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนเองต่างหาก

รัฐบาลมอสโกระบุว่า กองกำลังของตนมุ่งโจมตีเป้าหมายที่กำหนดไว้แต่แรกเพียงเท่านั้น อันได้แก่สถานที่ทางทหารและอุตสาหกรรมด้านกลาโหม

หลังได้ยินเสียงไซเรนโจมตีทางอากาศดังขึ้นทั่วกรุงเคียฟเมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลเด็กได้เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและบุคลากรไปยังห้องหลบภัยใต้ดินทันที

เจ้าหน้าที่พยาบาลคนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า "ด้วยเหตุผลบางประการ เราคิดมาโดยตลอดว่าโรงพยาบาลเด็กโอคมัตดิตจะได้รับการยกเว้น ซึ่งเรามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าพวกเขาจะไม่โจมตีที่นี่ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นเราตกใจมากและต้องรีบตั้งสติในการเร่งดำเนินการช่วยเหลือทุกคนทันที"

นอกจากโรงพยาบาลเด็กแล้ว การโจมตียังได้สร้างความเสียหายให้กับอาคารที่พักอาศัยและอาคารสำนักงานหลายแห่งในเคียฟ ขณะที่ผู้สื่อข่าวของเอเอฟพีพบเห็นรถยนต์ถูกไฟไหม้และต้นไม้ฉีกเป็นชิ้นๆ บนสนามหญ้าที่ไหม้เกรียม

'DTEK' บริษัทพลังงานเอกชนรายใหญ่ที่สุดของยูเครนระบุว่า สถานีไฟฟ้าย่อยในเมืองหลวง 3 แห่งของบริษัทฯถูกทำลายจนเสียหาย ซึ่งการที่รัสเซียมุ่งโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าส่งผลให้ยูเครนสูญเสียกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่าครึ่งหนึ่งในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

กองกำลังรัสเซียมุ่งเป้าโจมตีเมืองหลวงซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่บุกยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 และการโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธครั้งใหญ่ในเคียฟเกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว

ประธานาธิบดียูเครนประกาศทิ้งท้ายผ่านโซเชียลมีเดียว่า การยิงถล่มครั้งนี้มุ่งเป้าไปที่พลเรือนและโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งทั้งโลกควรเห็นผลที่ตามมาของการก่อการร้ายในปัจจุบัน และเราสามารถตอบโต้ได้ด้วยการใช้กำลังเท่านั้น รัสเซียไม่สามารถอ้างความไม่รู้ได้ว่าขีปนาวุธของตนกำลังบินไปที่ใด และจะต้องรับผิดชอบต่ออาชญากรรมทั้งหมดอย่างเต็มที่.

เพิ่มเพื่อน