กลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาระบุว่า กองทัพอิสราเอลโจมตีโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ดำเนินการโดยสหประชาชาติซึ่งมีผู้พลัดถิ่นหลายพันคนพักพิงอยู่ จนคร่าชีวิตผู้คนไป 16 ราย
เด็กปาเลสไตน์ร้องไห้หนัก หลังได้รับผลกระทบจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอลรอบๆ โรงเรียนอัล-จอว์นี ในเมืองนูเซรัต ทางตอนกลางของฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ท่ามกลางความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส (Photo by Eyad BABA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่ากองทัพอิสราเอลโจมตีโรงเรียนแห่งหนึ่งที่ดำเนินการโดยสหประชาชาติและเป็นที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นหลายพันคน จนคร่าชีวิตผู้คนไป 16 ราย ตามรายงานของกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซา
ต่อมากองทัพอิสราเอลยอมรับในถ้อยแถลงว่า เครื่องบินของตนมุ่งเป้าโจมตีผู้ก่อการร้ายที่ปฏิบัติการอยู่รอบๆ โรงเรียนอัล-จอว์นี ในเมืองนูเซรัต ทางตอนกลางของฉนวนกาซา
กระทรวงสาธารณสุขของกลุ่มฮามาสในดินแดนกาซาประณามการโจมตีดังกล่าวว่าเป็น "การสังหารหมู่ที่น่ารังเกียจ" และเปิดเผยว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ 50 คน
สำนักข่าวของกลุ่มฮามาสเปิดเผยว่า มีผู้ลี้ภัยอยู่ในโรงเรียนประมาณ 7,000 คนในช่วงเวลาที่เกิดการโจมตี โดยผู้คนหลายสิบคนช่วยกันรื้อซากปรักหักพังหลังการโจมตี เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต
สำนักข่าวฯยังระบุอีกว่าโรงเรียนแห่งนี้ดำเนินการโดยหน่วยงานสหประชาชาติเพื่อผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ (UNRWA) และผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นเด็ก, สตรี และผู้สูงอายุ
ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในเหตุการณ์โจมตีให้ข้อมูลว่า เด็กบางคนถูกสังหารขณะอ่านอัลกุรอานในชั้นเรียน และนี่เป็นครั้งที่สี่แล้วที่อิสราเอลมุ่งเป้าไปที่โรงเรียนโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า
ฮามาสเรียกการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็นการสังหารหมู่ครั้งใหม่ที่กระทำโดยศัตรู ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวปาเลสไตน์
แต่กองทัพอิสราเอลระบุว่า ปฏิบัติการทางทหารได้โจมตีผู้ก่อการร้ายหลายคนที่ปฏิบัติการอยู่ในสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนอัล-จอว์นีของยูเอ็น
"สถานที่นี้ทำหน้าที่เป็นที่หลบภัยและเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการปฏิบัติงาน ซึ่งใช้ควบคุมและดำเนินการโจมตีกองทหารของอิสราเอลที่ปฏิบัติการในฉนวนกาซา" กองทัพฯระบุ พร้อมยืนยันว่ามีมาตรการในการดำเนินการตามขั้นตอนต่างๆ เพื่อลดความเสี่ยงที่จะทำร้ายพลเรือน
อีกด้านหนึ่ง อิสราเอลยินดีที่จะพบปะกับผู้ไกล่เกลี่ยในข้อตกลงหยุดยิง แต่ยังคงสงวนปฏิบัติการทางทหารในดินแดนกาซาต่อไป
UNRWA ระบุว่าคนงานสองคนเสียชีวิตในการโจมตีที่อัล-บูเรจ ใจกลางฉนวนกาซาเช่นกันเมื่อเช้าวันเสาร์ ขณะที่โรงพยาบาลอัล-อักซอแจ้งว่า มีศพอีก 9 ศพถูกนำไปยังห้องดับจิตหลังการโจมตี
หน่วยงานของสหประชาชาติระบุว่า ขณะนี้มีคนงาน 194 ราย เสียชีวิตตั้งแต่สงครามเริ่มต้น
โฆษกของUNRWA กล่าวว่านับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น สิ่งอำนวยความสะดวกของหน่วยงานมากกว่าครึ่งหนึ่งได้รับผลกระทบ และหลายแห่งที่ถูกใช้เป็นที่พักพิงก็มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 500 รายจากการหลบภัยในสถานที่เหล่านั้น
หน่วยกู้ภัยในกาซากล่าวด้วยว่า มีพลเรือน 10 ราย รวมถึงนักข่าว 3 ราย เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอลที่บ้านหลังหนึ่งในเมืองนูเซรัตเมื่อวันเสาร์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าไม่มีสถานที่ใดในฉนวนกาซาที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน
สงครามครั้งนี้เริ่มต้นด้วยการโจมตีของกลุ่มฮามาสทางตอนใต้ของอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม อันส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,195 ราย และกลุ่มติดอาวุธยังจับตัวประกันได้อีกหลายคน โดย 116 คนยังคงอยู่ในฉนวนกาซา และในจำนวนนี้ 42 รายถูกระบุว่าเสียชีวิตแล้ว
อิสราเอลได้ปฏิบัติการทางทหารตอบโต้การโจมตีดังกล่าว และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 38,098 รายในฉนวนกาซา โดยส่วนใหญ่เป็นพลเรือน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ดร.ปณิธาน วิเคราะห์สถานการณ์ตะวันออกกลาง หลังอิสราเอลตอบโต้กลับอิหร่าน
รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง และการต่างประเทศ โพสต์คลิปสัมภาษณ์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมข้อความว่า อิสราเอลแถลงว่าการโจมตีอิหร่านสิ้นสุดลงแล้ว (พรุ่งนี้ต้องจับตาดูการเจรจาหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันรอบใหม่ระหว่างฮามาสและอิสราเอลที่ Doha)