นักปฏิรูปหัวสมัยใหม่คว้าชัยตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน

ผู้สมัครนักปฏิรูปของอิหร่านชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างท่วมท้น จากแรงหนุนที่ต้องการต่อต้านผู้สมัครอนุรักษนิยมสุดโต่ง

มาซูด ปีเซชเคียน ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน (Photo by ATTA KENARE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า มาซูด ปีเซชเคียน นักปฏิรูปหัวสมัยใหม่ ชนะการเลือกตั้งรอบสองและกลายเป็นประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่

หน่วยงานการเลือกตั้งอิหร่านเปิดเผยว่า ปีเซชเคียนได้รับคะแนนมากกว่า 16 ล้านเสียง ขณะที่ซาอีด จาลีลี อดีตผู้เจรจาต่อรองด้านนิวเคลียร์สายอนุรักษนิยมได้คะแนนไปราว 13 ล้านเสียง จากผู้ลงคะแนนทั้งหมด 30 ล้านเสียง โดยการเลือกตั้งรอบนี้มีผู้มีสิทธิออกมาลงคะแนนเสียงอยู่ที่ 49.8% และมีบัตรเสียมากกว่า 600,000 ใบ

ชาวอิหร่านราว 61 ล้านคนมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งที่เดิมกำหนดจัดในปี 2568 แต่จำเป็นต้องเลื่อนเร็วขึ้นเพราะสูญเสียอดีตประธานาธิบดีเอบราฮิม ไรซีจากเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกเมื่อเดือนที่แล้ว

ส่วนการเลือกตั้งรอบสองเกิดขึ้นเพราะผลการเลือกตั้งรอบแรกไม่มีผู้สมัครรายใดได้รับคะแนนเสียงเกิน 50% โดยส่วนหนึ่งเนื่องมาจากมีผู้ออกมาใช้สิทธิ์ลงคะแนนเสียงต่ำเป็นประวัติการณ์เพียงแค่ 41%

ในรอบแรกของสัปดาห์ที่แล้ว ปีเซชเคียนได้รับคะแนนเสียงมากที่สุดประมาณ 42% ในขณะที่ซาอีด จาลีลี ตามมาเป็นอันดับสองด้วยคะแนนประมาณ 39% ทำให้ผู้สมัครทั้งสองคนที่ได้คะแนนสูงสุดได้เข้ามาเลือกตั้งรอบสอง

หลังได้รับการชูมือ ปีเซชเคียนกล่าวต่อผู้สนับสนุนที่มาร่วมยินดีกับชัยชนะว่า การลงคะแนนเสียงเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของความร่วมมือกับประชาชนชาวอิหร่าน

"เส้นทางข้างหน้าจะไม่ราบรื่นได้เลย หากปราศจากมิตรภาพ, การเอาใจใส่ และความไว้วางใจของพวกคุณ" ประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่กล่าว

อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านเรียกร้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการลงคะแนนเสียงให้มากกว่านี้ เพราะตัวเลขการมีส่วนร่วมทางการเมืองนั้นต่ำมาก โดยทั้งหมดอาจเป็นเหตุจากความตึงเครียดในภูมิภาคที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะสงครามฉนวนกาซา, ข้อพิพาทกับชาติตะวันตกเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และความไม่พอใจภายในประเทศเกี่ยวกับสถานะของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการที่อิหร่านถูกนานาชาติคว่ำบาตร

การลงสนามเลือกตั้งของนักปฏิรูปหัวสมัยใหม่ได้เพิ่มความหวังให้กับการเมืองของประเทศ หลังจากถูกครอบงำโดยฝ่ายอนุรักษนิยมมานานหลายปี

มาซูด ปีเซชเคียนวัย 69 ปี เป็นศัลยแพทย์หัวใจและสมาชิกรัฐสภาจากเมืองทาบริซทางตอนเหนือ มาตั้งแต่ปี 2551

เขาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขในสมัยประธานาธิบดีโมฮัมหมัด คาตามี นักปฏิรูปคนสุดท้ายของอิหร่านซึ่งดำรงตำแหน่งระหว่างปี 2540-2548

ปีเซชเคียนวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของไรซีในเรื่องความโปร่งใส ระหว่างการประท้วงทั่วประเทศจากกรณีการเสียชีวิตของมาห์ซา อามินี และเขาได้รณรงค์ให้อิหร่านสร้างความสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์กับสหรัฐอเมริกาและชาติยุโรป เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากความโดดเดี่ยว

เขาให้คำมั่นว่าจะผ่อนปรนข้อจำกัดทางอินเทอร์เน็ตที่มีมายาวนาน และต่อต้านตำรวจศาสนาอย่างเต็มที่ จากกรณีที่เคยบังคับปฏิบัติเรื่องการใช้ผ้าคลุมศีรษะของสตรีอิหร่าน ซึ่งกลายเป็นกระแสโด่งดังไปทั่วโลกและนำไปสู่การประท้วงรุนแรงในประเทศเมื่อปี 2565.

เพิ่มเพื่อน