เอ็กซิทโพลชี้ พรรคแรงงานอังกฤษชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย

พรรคแรงงานของอังกฤษโกยคะแนนเสียงเลือกตั้งได้ถล่มทลายจากผลเอ็กซิทโพลหลังปิดคูหา และเคียร์ สตาร์เมอร์จะเข้ามาแทนที่ริชี ซูนัค ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ สิ้นสุดการปกครองแบบอนุรักษนิยมยาวนาน 14 ปี

เอ็กซิทโพลคาดการณ์ว่าพรรคแรงงานที่นำโดยเคียร์ สตาร์เมอร์จะคว้า 410 ที่นั่งในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ โดยมีการถ่ายทอดผลดังกล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์บีบีซี เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม (Photo by Oli SCARFF / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 5 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า คูหาเลือกตั้งของอังกฤษปิดลงอย่างเป็นทางการแล้วในเวลา 22.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น (04.00 น. ตามเวลาประเทศไทยในวันศุกร์) และเอ็กซิทโพลรับไม้ต่อในการเปิดเผยผลการลงคะแนนเสียงอย่างไม่เป็นทางการ

ผลการสำรวจที่ประกาศผ่านการออกอากาศทั่วสหราชอาณาจักรชี้ว่า พรรคแรงงานจะได้ 410 ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรจากทั้งหมด 650 ที่นั่ง โดยพรรคอนุรักษนิยมจะได้เพียง 131 ที่นั่ง

พรรคเสรีประชาธิปไตยที่เป็นพรรคฝ่ายค้านขนาดเล็กถือเป็นตัวสอดแทรกที่จะได้ไปถึง 61 ที่นั่ง ขณะที่พรรคปฏิรูปสหราชอาณาจักรจะได้ไป 13 ที่นั่ง

สตาร์เมอร์กล่าวขอบคุณทุกคะแนนเสียงผ่านโซเชียลมีเดียว่า "ขอบคุณทุกท่านที่สนับสนุนพรรคแรงงานในการเลือกตั้งครั้งนี้ ทุกคะแนนเสียงที่ลงคะแนนให้เราคือความไว้วางใจที่มีต่อพรรคฯในภารกิจเปลี่ยนแปลงประเทศ ซึ่งจะเริ่มต้นนับจากนี้"

การนับบัตรลงคะแนนจากหน่วยเลือกตั้งประมาณ 40,000 แห่งทั่วประเทศจะทราบผลอย่างเป็นทางการอย่างช้าสุดคือเช้าวันศุกร์

ผลลัพธ์ทางการเมืองในอังกฤษมีแนวโน้มสวนทางกับพันธมิตรมหาอำนาจอย่างฝรั่งเศสที่น่าจะได้รัฐบาลจากกลุ่มขวาจัด และสหรัฐอเมริกาที่อดีตผู้นำสุดโต่งอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังมีคะแนนนิยมนำโจ ไบเดน ก่อนถึงการเลือกตั้งช่วงปลายปี

ผลคะแนนอย่างเป็นทางการต่อจากนี้อาจทำให้เคียร์ สตาร์เมอร์ วัย 61 ปี ก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำประเทศได้อย่างน่าทึ่ง หลังเข้าสู่การเมืองจากการเป็นส.ส.ครั้งแรกเมื่อปี 2558 และทำงานอย่างหนักจนเป็นการพลิกฟื้นครั้งใหญ่ของพรรคแรงงาน

อดีตทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและหัวหน้าพนักงานอัยการรายนี้ได้รับเลือกให้เป็นผู้นำพรรคแรงงานเมื่อต้นปี 2563 ต่อจากเจเรมี คอร์บิน อดีตนักกฎหมายมากประสบการณ์ซึ่งพ่ายแพ้ให้กับบอริส จอห์นสันอย่างขาดลอยในปี 2562

ตั้งแต่นั้นมา เขาสามารถดึงพรรคกลับคืนสู่จุดที่ได้รับความนิยมและกลายเป็นทางเลือกใหม่ของประชาชนอังกฤษ โดยเป็นความหวังในการฟื้นฟูเสถียรภาพและบูรณภาพทางการเมืองที่สูญเสียไปจากการปกครองของอนุรักษนิยม

หากได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษคนใหม่แล้ว ภารกิจแรกของสตาร์เมอร์จะเป็นการเดินทางไปร่วมประชุมนาโตที่วอชิงตันในสัปดาห์หน้า จากนั้นช่วงปลายเดือนจะต้อนรับบรรดาผู้นำชาติยุโรปที่การประชุมสุดยอดทางตอนใต้ของอังกฤษ.

เพิ่มเพื่อน