ศาลกัมพูชาลงโทษนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม ฐานประสงค์ร้ายจากการเคลื่อนไหว

ศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม 10 คน เป็นเวลา 6-8 ปี ฐานวางแผนก่ออาชญากรรมในการเคลื่อนไหวของพวกเขา ถือเป็นการปราบปรามทางกฎหมายครั้งล่าสุดต่อกลุ่มไม้เบื่อไม้เมาของรัฐบาล

ฝวน แกวรัก-สเม นักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อมชาวกัมพูชา ถูกจับกุมนอกศาล หลังมีคำพิพากษาจำคุกสมาชิกของกลุ่มเคลื่อนไหวดังกล่าว ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม (Photo by TANG CHHIN SOTHY / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอังคารที่ 2 กรกฎาคม 2567 กล่าวว่า ศาลกัมพูชาพิพากษาจำคุกนักรณรงค์เพื่อสิ่งแวดล้อม 10 คน ในฐานความผิดจากการวางแผนก่ออาชญากรรมภายใต้ข้ออ้างการเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม

นักเคลื่อนไหวจากกลุ่ม 'Mother Nature' ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมไม่กี่กลุ่มของกัมพูชา ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวซึ่งพวกเขาเชื่อว่ามีแรงจูงใจทางการเมือง

อัม ซัมอัธ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชน 'LICADHO' กล่าวกับเอเอฟพีว่า ศาลพิพากษาให้นักเคลื่อนไหวทั้ง 10 คนได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 6-8 ปี จากการเคลื่อนไหวของกลุ่มระหว่างปี 2555- 2564

เขากล่าวว่า อเลฮานโดร กอนซาเลซ-เดวิดสัน ผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่ม 'Mother Nature' ชาวสเปนที่ถูกเนรเทศออกจากกัมพูชาในปี 2558 เป็นหนึ่งในสามคนที่ได้รับโทษจำคุกสูงสุด 8 ปี ฐานวางแผนต่อต้านรัฐบาลและดูหมิ่นกษัตริย์ ขณะที่อีกเจ็ดคนถูกตัดสินจำคุก 6 ปีจากข้อหาวางแผนที่ไม่ระบุรายละเอียด

เขาแสดงความผิดหวังต่อคำตัดสินของศาลที่มองว่านักเคลื่อนไหวเยาวชนที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและหลักการประชาธิปไตย ต้องกลายเป็นผู้กระทำการต่อต้านรัฐ

ทั้งนี้ จำเลย 6 คนไม่ได้มาฟังคำพิพากษาที่ศาล ในขณะที่อีก 4 คนที่มาแสดงออกถึงการไม่ยอมรับข้อกล่าวหาด้านนอกศาล ถูกตำรวจจับกุมและนำตัวออกไป ตามรายงานของนักข่าวเอเอฟพี

ก่อนการพิพากษา นักเคลื่อนไหวทั้ง 4 คนและผู้สนับสนุนอีกหลายสิบคนได้เดินขบวนไปที่ศาลพร้อมขบวนแห่ศพจำลอง โดยสวมชุดสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์

"เราไม่ได้รับความยุติธรรม ณ ที่แห่งนี้ เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด" ฝวน แกวรัก-สเม สมาชิกกลุ่ม Mother Nature วัย 23 ปี กล่าวกับผู้สื่อข่าวนอกศาลพนมเปญ และเสริมว่าพวกเขาเป็นเพียงกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ทำงานเพื่อความยุติธรรมทางสังคมและเพื่อ "ปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ"

เมื่อเดือนที่แล้ว ฮิวแมนไรต์วอตช์ประณามการพิจารณาคดีนี้ว่าเป็นความพยายามที่จะปิดปากการวิพากษ์วิจารณ์นโยบายของรัฐบาลพนมเปญ เพราะ Mother Nature ได้รณรงค์ต่อต้านโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างความเสียหายมานานกว่าทศวรรษ และเปิดโปงการทุจริตในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติของกัมพูชา

กลุ่มดังกล่าวได้ชูประเด็นเกี่ยวกับการถมทะเลสาบในกรุงพนมเปญ, การตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย และการทำลายทรัพยากรธรรมชาติทั่วประเทศ

การแย่งชิงหรือแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของกัมพูชาเป็นปัญหาที่ถกเถียงกันมานานในดินแดนแห่งนี้ โดยนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมถูกข่มขู่, ถูกจับกุม และกระทั่งถูกสังหารในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

นักเคลื่อนไหว 3 คนที่ถูกตัดสินจำคุกครั้งนี้ เคยถูกจำคุกฐานจัดการเดินขบวนอย่างสงบเพื่อประท้วงการถมทะเลสาบในเมืองหลวงเพื่อสร้างที่ดินสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

ตั้งแต่ปี 2544-2558 ป่าปฐมภูมิจำนวนหนึ่งในสามของกัมพูชา ซึ่งเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนที่สำคัญและมีความหลากหลายทางชีวภาพมากที่สุดในโลก ได้ถูกกำจัดออกไป และการสูญเสียพื้นที่ปกคลุมต้นไม้ก็เร่งตัวเร็วกว่าที่อื่นในโลก ตามการระบุของสถาบันทรัพยากรโลก

พื้นที่ป่าเหล่านั้นส่วนใหญ่ถูกส่งต่อให้บรรดาหน่วยธุรกิจที่ได้รับสัมปทาน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าได้กระตุ้นให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่าและครอบครองทรัพยากรธรรมชาติของประเทศในวงกว้าง.