เวียนนาครองแชมป์เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก ปีที่สามติดต่อกัน

เวียนนายังคงเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกเป็นปีที่สามติดต่อกัน ในขณะที่เมืองหลวงของอิสราเอลคะแนนตกฮวบ จากการประกาศจัดอันดับประจำปี

แฟ้มภาพ บริการรถม้าบริเวณมหาวิหารเซนต์สตีเฟน ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (Photo by JOE KLAMAR / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า การจัดอันดับ "เมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก" ประจำปี 2567 ของดิอีโคโนมิสต์ (The Economist) นิตยสารดิจิทัลระดับโลกฉบับตีพิมพ์ล่าสุด ปรากฏว่ากรุงเวียนนา เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย ยังคงครองอันดับ 1 ต่อไปเป็นปีที่สามติดต่อกัน (2565-2567) โดยอันดับ 2 เป็นของกรุงโคเปนเฮเกน เมืองหลวงของเดนมาร์ก และอันดับ 3 เป็นของนครซูริคในสวิตเซอร์แลนด์

อันดับ 4 เป็นของนครเมลเบิร์นในออสเตรเลีย และอันดับ 5 ได้แก่เมืองคาลการีในแคนาดา ตามดัชนีความน่าอยู่ทั่วโลกของดิอีโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต (EIU)

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณาจัดอันดับความน่าอยู่ของเมือง 173 เมืองใน 5 หมวดหมู่ ได้แก่ ความมั่นคง, การดูแลสุขภาพ, วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม, การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน

เวียนนาได้รับคะแนนเต็มในด้านความมั่นคง, การดูแลสุขภาพ, การศึกษา และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งโดยรวมแล้วในปีนี้ดัชนีความน่าอยู่ทั่วโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่ผ่านมา

"ยุโรปตะวันตกยังคงเป็นภูมิภาคที่น่าอยู่ที่สุด แต่คะแนนเสถียรภาพลดลงจากกิจกรรมการประท้วงที่เพิ่มขึ้นในประเด็นต่างๆ เช่น การเพิ่มขึ้นของลัทธิหัวรุนแรงขวาจัด, นโยบายการเกษตรของสหภาพยุโรป, การต่อต้านการย้ายถิ่นฐาน, ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์, วิกฤตที่อยู่อาศัย และภาวะเงินเฟ้อ" รายงานของดิอีโคโนมิสต์ระบุ

ทั้งนี้ อันดับของกรุงเทลอาวีฟตกลงมากกว่าเมืองอื่นๆ โดยลดลง 20 อันดับมาอยู่ที่ 112 เนื่องมาจากสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาส

ขณะที่ ดามัสกัส เมืองหลวงของประเทศซีเรียที่ได้รับความเสียหายจากการทำสงคราม จองตำแหน่งเมืองน่าอยู่น้อยที่สุดในโลกเช่นเดิม

เวียนนาเคยครองตำแหน่งเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในโลกสามปีติดต่อกันมาแล้ว 1 ครั้ง คือระหว่างปี 2561-2563 ก่อนมาได้สามปีติดกันอีกครั้งในปีนี้.