ฝนตกหนักกระหน่ำทางตอนใต้และตอนกลางของชิลีเมื่อวันพฤหัสบดี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหลายร้อยหลัง ในขณะที่ทางการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านภัยพิบัติใน 6 ภูมิภาคของประเทศ
มุมมองทางอากาศของพื้นที่น้ำท่วมในเมืองกอนเซปซิออน ภูมิภาคไบโอ-ไบโอ ประเทศชิลี เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน (Photo by GUILLERMO SALGADO / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า ฝนที่ตกกระหน่ำทางตอนใต้และตอนกลางของชิลี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และสร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหลายร้อยหลัง
รายงานผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในเมืองลินาเรสทางตอนใต้ โดยผู้เคราะห์ร้ายถูกเสาไฟหักโค่นใส่เพราะอิทธิพลของฝนตกหนักและลมแรงเป็นเวลานานหลายชั่วโมง
กรมอุตุนิยมวิทยาของชิลีออกประกาศเตือนภัยระดับสูงสุด ครอบคลุมผู้คนราว 14 ล้านคนจากทั้งหมด 20 ล้านคนที่อาศัยอยู่ใน 6 ภูมิภาคจากทั้งหมด 16 ภูมิภาคของประเทศ แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้ถูกยกเลิกในเวลาต่อมา เนื่องจากทางการระบุว่าพายุส่วนใหญ่พัดผ่านไปแล้วร้อยละ 80 และกำลังมุ่งหน้าสู่อาร์เจนตินา
ก่อนที่น้ำท่วมจะเกิดขึ้น ภาคกลางของชิลีต้องเผชิญภัยแล้งรุนแรงมานานถึง 15 ปี
กูรานิลาฮู ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองหลวงซานติเอโกไปทางใต้ราว 600 กิโลเมตร ได้รับผลกระทบหนักเนื่องจากแม่น้ำกูรานิลาฮูและลาส รานาส เอ่อล้นฉับพลันหลังจากพื้นที่ดังกล่าวได้รับปริมาณน้ำฝน 350 มิลลิเมตรในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งมากกว่าที่เคยได้รับตลอดทั้งปี 2566 และทำให้บ้านเรือนในพื้นที่เสียหายราว 2,000 หลัง กระทบผู้คนมากกว่า 3,000 คน
ในซานติเอโกซึ่งมีฝนตกหนักเช่นกัน ทางการสั่งยกเลิกชั้นเรียนตลอดทั้งวัน และเรียกร้องให้ประชาชนอยู่แต่ในที่พัก
ในเมืองวีนา เดล มาร์ ผู้เชี่ยวชาญได้พยายามประคองโครงสร้างอาคารอพาร์ตเมนต์สูง 12 ชั้นหลังหนึ่งที่เสี่ยงต่อการพังทลาย เนื่องจากฝนตกหนักจนทำให้เกิดหลุมยุบขนาดใหญ่อยู่ข้างใต้.
