กองกำลังความมั่นคงหลายร้อยนายยิงปืนแรงดันน้ำและแก๊สน้ำตาเข้าใส่กลุ่มผู้ประท้วงต่อต้านข้อเสนอการปฏิรูปเศรษฐกิจในกรุงบัวโนสไอเรส
ตำรวจปราบจลาจลอาร์เจนตินาตั้งแถวสกัดกั้นระหว่างการปะทะกับผู้ประท้วงนอกรัฐสภาแห่งชาติในกรุงบัวโนสไอเรส เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน (Photo by Luis ROBAYO / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 13 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า ในขณะที่วุฒิสภาของอาร์เจนตินากำลังถกเถียงกันถึงแนวทางการเปิดเสรีการปฏิรูปที่เสนอโดยประธานาธิบดีฮาเวียร์ มิลเล ผู้ดำเนินนโยบายรัดเข็ดขัดและตัดงบประมาณ ชาวอาร์เจนตินาหลายพันคนก็ได้ออกมาเดินขบวนบนถนนในกรุงบัวโนสไอเรส เพื่อประท้วงนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจดังกล่าว
การปะทะกันระหว่างกองกำลังความมั่นคงและบรรดากลุ่มผู้ประท้วงเริ่มขึ้นจากเหตุวุ่นวายที่ผู้ประท้วงพยายามฝ่าแผงกั้นของตำรวจ เพื่อเข้าไปยังบริเวณรัฐสภาที่มีการอภิปราย
จากนั้นผู้ประท้วงที่เกิดความไม่พอใจเริ่มระดมขว้างปาก้อนหินใส่ตำรวจ จนตำรวจต้องตอบโต้ด้วยการฉีดสเปรย์พริกไทยเข้าใส่ และมีการยั่วยุตอบโต้กันไปมาตั้งแต่เช้ายันค่ำ
ในช่วงค่ำ เจ้าหน้าที่พยายามผลักดันกลุ่มผู้ประท้วงให้ล่าถอยด้วยการใช้โล่หนา ขณะที่เจ้าหน้าที่บางส่วนขับขี่มอเตอร์ไซค์ในการขับไล่ แต่ผู้ประท้วงที่โกรธแค้นได้โต้กลับด้วยการจุดไฟเผารถยนต์ 2 คัน โดยคันหนึ่งเป็นขององค์กรสื่อท้องถิ่น
จากการที่ตำรวจเริ่มใช้มาตรการรุนแรงกับผู้ประท้วงด้วยการใช้ปืนแรงดันและยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะมากกว่า 40 คน รวมทั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายค้านอย่างน้อย 5 คนที่มาร่วมกับประชาชน
ร่างกฎหมายปฏิรูปของประธานาธิบดีมิลเลนั้นมีสาระสำคัญอยู่ที่การประกาศภาวะฉุกเฉินทางเศรษฐกิจเป็นเวลา 1 ปี และให้อำนาจประธานาธิบดีในการยุบหน่วยงานของรัฐและสามารถแปรรูปบริษัทมหาชนประมาณ 12 แห่ง รวมถึงสายการบินแอโรลิเนียส อาร์เจนตินา ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจ
นอกจากนี้ยังมีการลดการเข้าถึงเงินเบี้ยเลี้ยงขั้นต่ำสำหรับเกษียณอายุ และลดการคุ้มครองแรงงานด้วยการอนุญาตให้มีภาคทัณฑ์ที่ยาวนานขึ้น
บทบัญญัติดังกล่าวยังรวมถึงแรงจูงใจด้านภาษี, ศุลกากร และการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศที่ประสบวิกฤติเศรษฐกิจ
ร่างกฎหมายดังกล่าวถูกคัดค้านโดยองค์กรทางสังคม, พรรคการเมืองฝ่ายซ้าย, กลุ่มผู้เกษียณอายุ, ครู และสหภาพแรงงาน ซึ่งเชื่อว่าร่างกฏหมายฉบับนี้จะทำให้สังคมและประเทศถอยหลังไป 100 ปี
อย่างไรก็ตาม การอภิปรายจะดำเนินต่อไปจนถึงช่วงเช้าตรู่ของวันพฤหัสบดี และหากร่างกฏหมายฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา กฎหมายจะถูกส่งกลับไปที่สภาผู้แทนราษฎรเพื่อไฟเขียวครั้งสุดท้าย
ทั้งนี้ พรรคการเมืองของประธานาธิบดีมิลเลนั้นอยู่ในกลุ่มเสียงข้างน้อยของทั้งสองสภา ทำให้เขาไม่สามารถออกกฎหมายใดๆ เลยนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว
มิลเลชนะการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว โดยให้คำมั่นว่าจะลดการใช้จ่ายสาธารณะและการขาดดุลงบประมาณให้เหลือศูนย์
ตามกฤษฎีกา เขาได้ลดคณะรัฐมนตรีลงครึ่งหนึ่ง, ลดตำแหน่งงานสาธารณะ 50,000 ตำแหน่ง, ระงับสัญญาจ้างงานสาธารณะฉบับใหม่ และริบเงินอุดหนุนเชื้อเพลิงและการขนส่ง แม้ว่าต้องแลกกับกำลังซื้อในระบบเศรษฐกิจที่หายไปถึงหนึ่งในห้า จนทำให้อัตราเงินเฟ้อต่อปีแตะระดับ 300%
หากร่างกฎหมายของเขาถูกปฏิเสธในคราวนี้ มิลเลจะต้องรออีกหนึ่งปีจึงจะเสนอร่างกฏหมายเข้าไปให้สภาคองเกรสพิจารณาอนุมัติใหม่ได้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
จลาจลหนักในหลายเมืองของฝรั่งเศสหลังการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติ
จากการเฉลิมฉลองผลการเลือกตั้งอย่างสันติได้ลุกลามไปสู่ความรุนแรงในหลายพื้นที่ของฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ป
ทบ. ตั้ง กก.สอบเอาผิด ทหารเมาพกระเบิดควัน-แก๊สน้ำตา
ทบ. ตั้งคณะกรรมการสอบ ทหารเมาพกระเบิดควัน-แก๊สน้ำตา เจ้าตัวชี้แจงไม่มีเจตนานำไปใช้ในทางผิดกฎหมาย