ฮ่องกงยกเลิกหนังสือเดินทางนักเคลื่อนไหว 6 คน

รัฐบาลฮ่องกงยกเลิกหนังสือเดินทางของนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 6 คนที่หลบหนีไปยังสหราชอาณาจักร พร้อมแสดงเจตจำนงต้องการตัวกลับมาดำเนินคดีในฐานะอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมาย

(Photo by Isaac LAWRENCE / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 12 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า รัฐบาลฮ่องกงยังคงเดินหน้ากฏหมายความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดดำเนินการยกเลิกหนังสือเดินทางของนักเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย 6 คนที่หลบหนีไปยังสหราชอาณาจักร และแสดงเจตจำนงต้องการตัวกลับมาดำเนินคดีในฐานะอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมาย

นับตั้งแต่เหตุประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยครั้งใหญ่ในปี 2562 ฮ่องกงได้เข้มงวดมากขึ้นในการปราบปรามผู้เห็นต่าง ด้วยการบัญญัติและบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงที่หลายฝ่ายเห็นว่าเป็นการจำกัดเสรีภาพของพลเมือง

เมื่อปีที่แล้ว ฮ่องกงตั้งรางวัลนำจับมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4.7 ล้านบาท) ต่อนักเคลื่อนไหว 13 คนที่หลบหนีอยู่ในต่างประเทศ ภายใต้ข้อกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมด้านความมั่นคงของชาติ

โฆษกรัฐบาลระบุในถ้อยแถลงว่า นักเคลื่อนไหวทั้ง 6 คนที่มีชื่ออยู่ในรายชื่อต้องการตัว ล้วนเป็นอาชญากรที่กระทำผิดกฎหมาย และซ่อนตัวอยู่ในสหราชอาณาจักร

"พวกเขายังคงมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่เป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติอย่างโจ่งแจ้ง พวกเขายังแสดงคำพูดที่สร้างความหวาดกลัวเพื่อใส่ร้ายเขตบริหารพิเศษฮ่องกง" โฆษกรัฐบาลกล่าว

นอกจากการยกเลิกหนังสือเดินทางฮ่องกงแล้ว ตำรวจยังกล่าวอีกว่า ผู้ใดก็ตามที่สนับสนุนเงินทุน, ให้เช่าทรัพย์สิน หรือทำธุรกิจร่วมกับพวกเขา อาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี

นักเคลื่อนไหวทั้ง 6 คน ได้แก่ นาธาน ลอว์ อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติ, คริสโตเฟอร์ เมิ่ง ซิ่ว ทัต นักสหภาพแรงงานมากประสบการณ์, ฟินน์ เลา นักเคลื่อนไหว, ฟอก กาชิ, ชเว หมิงดา และไซมอน เฉิง ผู้ก่อตั้งกลุ่มประชาสังคมชาวฮ่องกงในอังกฤษ

ในความเคลื่อนไหวดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฮ่องกงอ้างถึงกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ หรือที่เรียกขานกันว่ามาตรา 23 เป็นพื้นฐานทางกฎหมายในการยกเลิกหนังสือเดินทาง

คริส ถัง หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงฮ่องกงออกมาปกป้องความเคลื่อนไหวดังกล่าวว่าเป็นสิ่งจำเป็น โดยกล่าวว่าทั้ง 6 คนซ่องสุมอยู่ในสหราชอาณาจักร และยังคงสมรู้ร่วมคิดกับกองกำลังต่างชาติ

หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ตำหนินักเคลื่อนไหวทั้ง 6 คนว่า "พฤติกรรมน่ารังเกียจของพวกเขาเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติอย่างร้ายแรง, ทำลายผลประโยชน์พื้นฐานของฮ่องกง และโจมตีคุณค่าของการปกครองแบบ 'หนึ่งประเทศ สองระบบ'

ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลเกิดขึ้นในวันครบรอบ 5 ปีของการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจ ซึ่งถือเป็นการลุกลามครั้งใหญ่ของการประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยในปี 2562

ภายใต้ข้อตกลงระหว่างจีนและอังกฤษในการส่งมอบคืนฮ่องกง เกาะแห่งนี้มีสิทธิเสรีภาพในการบริหารการปกครองของตนเองโดยไม่ยึดโยงแผ่นดินใหญ่ และเคยดำรงไว้ซึ่งกระบวนการทางประชาธิปไตยมาตลอด

หลังเหตุประท้วงใหญ่ยุติลงในปี 2563 รัฐบาลปักกิ่งได้บังคับใช้กฎหมายความมั่นคงที่ครอบคลุมไปยังดินแดนฮ่องกง ซึ่งนักวิจารณ์กล่าวว่าได้ทำลายเงื่อนไขทางกฎหมายที่ครั้งหนึ่งเคยมีระหว่างฮ่องกงกับจีนแผ่นดินใหญ่

กฎหมายดังกล่าวซึ่งทำให้มีผู้ถูกจับกุมเกือบ 300 คนนับตั้งแต่บังคับใช้ ยังอ้างอำนาจในการดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาได้ทั่วโลกอีกด้วย

นักเคลื่อนไหวทั้ง 6 คนถูกกล่าวหาว่าก่ออาชญากรรมด้านความมั่นคง รวมถึงการยุยงให้ประชาชนแตกแยก, การบ่อนทำลาย และการสมรู้ร่วมคิดกับต่างชาติ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นข้อหาที่อาจทำให้พวกเขาต้องติดคุกตลอดชีวิต

จอห์น ลี ผู้นำฮ่องกงเคยกล่าวไว้ว่า นักเคลื่อนไหวที่รัฐบาลต้องการตัวจะถูกไล่ล่าไปตลอดชีวิต

ยังมีบุคคลอีก 5 คนในฮ่องกงถูกจับกุมฐานให้การสนับสนุนทางการเงินแก่นักเคลื่อนไหวเหล่านั้น แต่พวกเขาได้รับการประกันตัวระหว่างสู้คดี

นอกจากนี้ สมาชิกในครอบครัวและอดีตเพื่อนร่วมงานประมาณ 40 คนของนักเคลื่อนไหวเหล่านั้นก็ถูกเรียกตัวไปสอบปากคำกับตำรวจในช่วงปีที่ผ่านมา.

เพิ่มเพื่อน