รัฐมนตรีสงครามของอิสราเอลประกาศลาออก หลังขัดแย้งจุดยืนในฉนวนกาซา

เบนนี แกนต์ซ รัฐมนตรีกระทรวงสงครามของอิสราเอลประกาศลาออกจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเมื่อวันอาทิตย์ สร้างความกดดันภายในประเทศต่อผู้นำอิสราเอลรายนี้ในขณะที่สงครามในฉนวนกาซาเริ่มดุเดือด

เบนนี แกนต์ซ รัฐมนตรีกระทรวงสงครามของอิสราเอล ประกาศลาออกระหว่างการปราศรัยทางโทรทัศน์ ในเมืองรามัทกัน ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน (Photo by JACK GUEZ / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า ขณะที่การสู้รบในฉนวนกาซากลับมาดุเดือดอีกระลอก อิสราเอลต้องปวดหัวหนักมากขึ้นเมื่อเบนนี แกนต์ซ รัฐมนตรีกระทรวงสงครามประกาศลาออกจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเมื่อวันอาทิตย์ กลายเป็นปมความขัดแย้งภายในประเทศที่สร้างความกดดันให้กับผู้นำอิสราเอลไม่น้อย

อดีตนายพลและรัฐมนตรีกลาโหมรายนี้ประกาศลาออกจากหน่วยงานฉุกเฉินของคณะรัฐมนตรีสงคราม หลังจากล้มเหลวในการได้รับแผนปฏิบัติการเชิงยุทธศาสตร์ 6 ประการที่มีความสำคัญระดับชาติ โดยแผนงานดังกล่าวที่มุ่งให้มีการวางแผนการจัดการฉนวนกาซาหลังสงครามสิ้นสุดไม่ได้รับอนุมัติจากเนทันยาฮู

เบนนี แกนต์ซเคยขู่เนทันยาฮูเมื่อเดือนพฤษภาคมไว้ว่า หากผู้นำอิสราเอลไม่อนุมัติแผนดังกล่าวภายในวันที่ 8 มิถุนายน เขาจะขอลาออก ซึ่งเมื่อแผนไม่ผ่าน เขาก็ลาออกจริงๆ

แม้การจากไปของนักการเมืองสายกลางคนนี้อาจไม่ส่งผลถึงขั้นโค่นล้มรัฐบาลชาตินิยมได้ แต่ถือเป็นการโจมตีทางการเมืองครั้งใหญ่ต่อเนทันยาฮูในรอบ 8 เดือนของสงครามฉนวนกาซากับกลุ่มติดอาวุธฮามาส

นอกจากแกนต์ซแล้ว กาดี ไอเซนคอต อดีตผู้บัญชาการทหารบกและสมาชิกพรรคของแกนต์ซ ได้ลาออกจากคณะรัฐมนตรีสงครามตามเขาไปเช่นกัน ทำให้ตอนนี้เหลือสมาชิกเพียง 3 คน โดยคณะรัฐมนตรีสงครามมีบทบาทในการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ เกี่ยวกับความขัดแย้ง

"เนทันยาฮูกำลังขัดขวางไม่ให้เราก้าวหน้าไปสู่ชัยชนะที่แท้จริง นั่นคือเหตุผลที่เราออกจากรัฐบาลในวันนี้ด้วยหัวใจที่หนักหน่วง และผมขอเรียกร้องเนทันยาฮูให้กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ทันทีตามที่ตกลงไว้ อย่าปล่อยให้ประชาชนของเราแตกแยก" แกนต์ซกล่าวในแถลงการณ์

ในวันเสาร์ ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่กองกำลังอิสราเอลช่วยเหลือตัวประกัน 4 คนจากฉนวนกาซา เนทันยาฮูได้เรียกร้องให้แกนต์ซไม่ลาออก แต่การประกาศของแกนต์ซในท้ายที่สุดทำให้นายกรัฐมนตรีอิสราเอลตอบกลับภายในไม่กี่นาที โดยกล่าวว่า "เบนนี นี่ไม่ใช่เวลาที่จะละทิ้งการสู้รบ แต่นี่คือเวลาที่เราควรรวมกำลังกันไว้"

เช่นเดียวกับพันธมิตรขวาจัดของเนทันยาฮูอย่างอิตามาร์ เบน กวีร์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ และเบซาเลล สโมทริช รัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ที่ต่างตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อการลาออกของแกนต์ซ โดยกล่าวว่า "ไม่มีการกระทำใดที่แย่ไปกว่าการลาออกจากรัฐบาลในช่วงที่เกิดสงครามและในขณะที่ผู้ถูกลักพาตัวยังคงเสียชีวิตในอุโมงค์ของกลุ่มฮามาส"

ทั้งนี้ แกนต์ซ ซึ่งมีอายุครบ 65 ปีเมื่อวันอาทิตย์ ถูกมองว่าเป็นตัวเต็งในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ในกรณีที่รัฐบาลของเนทันยาฮูถูกโค่นล้มและจำเป็นต้องจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนด

นักวิเคราะห์การเมืองกล่าวว่า ณ จุดนี้ เนทันยาฮูอาจจำเป็นต้องพึ่งพาพันธมิตรฝ่ายขวามากขึ้นแล้วเพื่อความอยู่รอด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าต่อจากนี้แนวทางการรบจะออกมาในรูปแบบใด

เนทันยาฮูอยู่ภายใต้แรงกดดันที่เพิ่มมากขึ้นจากพันธมิตรขวาจัดของเขาที่ขู่ว่าจะลาออกจากรัฐบาล หากเขาดำเนินการตามข้อตกลงปล่อยตัวตัวประกันที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เสนอไว้เมื่อเดือนที่แล้ว

เบน กวีร์ และสโมทริชยืนกรานว่ารัฐบาลไม่ควรทำข้อตกลงใดๆ และควรทำสงครามต่อไปจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายในการทำลายล้างกลุ่มฮามาส

แกนต์ซเคยเรียกร้องให้อิสราเอลบรรลุข้อตกลงหลายครั้งเพื่อปล่อยตัวตัวประกันทั้งหมดและกำหนดให้เป็นลำดับความสำคัญแรก และเมื่อเห็นได้ชัดว่าอิสราเอลไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้เป็นอันดับแรก จึงกลายเป็นการแตกหักครั้งใหญ่ที่ทำให้เขาจำเป็นต้องจากไป

นับตั้งแต่การหยุดยิงนานหนึ่งสัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายนซึ่งมีการปล่อยตัวตัวประกันจำนวนมาก อิสราเอลก็ล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติมใดๆ มาตลอด และยังคงดำเนินการปฏิบัติการทางทหารอย่างดุเดือดในฉนวนกาซา.

เพิ่มเพื่อน