นายกฯหญิงเดนมาร์ก ถูกทำร้ายในโคเปนเฮเกน

นายกรัฐมนตรีเดนมาร์กถูกชายคนหนึ่งทำร้ายเมื่อวันศุกร์ในจัตุรัสโคเปนเฮเกน บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปร่วมประณามการโจมตีดังกล่าว

นายกรัฐมนตรีหญิงเมตเต เฟรเดอริกเซน ของเดนมาร์ก (Photo by KENZO TRIBOUILLARD / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีหญิงเมตเต เฟรเดอริกเซน ของเดนมาร์ก ถูกชายคนหนึ่งทำร้ายในจัตุรัสโคเปนเฮเกน โดยสำนักนายกรัฐมนตรีระบุในแถลงการณ์ว่าเฟรเดอริกเซนตกใจกับเหตุการณ์นี้

"นายกรัฐมนตรีเมตเต เฟรเดอริกเซนถูกชายคนหนึ่งทำร้ายเมื่อเย็นวันศุกร์ที่จัตุรัส Kultorvet ในโคเปนเฮเกน และชายคนดังกล่าวถูกจับกุมในเวลาต่อมา" คำแถลงระบุ

พยานผู้เห็นเหตุการณ์สองคนให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ BT ว่า พวกเขากำลังนั่งอยู่ข้างน้ำพุใกล้ ๆจัตุรัสในตอนที่เฟรเดอริกเซนเดินทางมาถึงก่อนเวลา 18.00 น. (23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย)

"ชายคนหนึ่งเดินผ่านมาในทิศทางตรงกันข้ามและผลักไหล่เธออย่างแรง จนทำให้เธอล้มลงข้างทาง แต่โชคดีที่ไม่ได้กระแทกพื้นรุนแรง จากนั้นเธอก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆร้านกาแฟแห่งหนึ่งในบริเวณนั้น" ผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งสองคนกล่าวในการให้สัมภาษณ์

พวกเขายังอธิบายอีกว่า ชายคนดังกล่าวมีลักษณะผอมสูง และพยายามหลบหนีหลังก่อเหตุ แต่ก็ไปได้ไม่ไกลเพราะถูกชายคนหนึ่งในชุดสูทคว้าตัวและผลักลงไปที่พื้นพร้อมใช้เข่ากดหลังไว้ โดยสันนิษฐานว่าชายรายหลังน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ตำรวจโคเปนเฮเกนยืนยันว่ามีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นจริง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม

"มีผู้ถูกจับกุมจากเหตุดังกล่าว 1 คนและอยู่ในระหว่างการสอบสวน ในเวลานี้เรายังไม่สามารถแสดงความเห็นหรืออธิบายใดๆได้มากนัก" ตำรวจฯระบุในแถลงการณ์

ภายหลังทราบข่าว ชาร์ลส์ มิเชล ประธานคณะมนตรียุโรป และโรเบอร์ตา เมตโซลา ประธานรัฐสภายุโรป ร่วมประณามการโจมตีเฟรเดอริกเซนว่าเป็นการกระทำที่ก้าวร้าวและขี้ขลาด พร้อมให้กำลังใจนายกฯหญิงของเดนมาร์ก

ทั้งนี้ เฟรเดอริกเซนถือเป็นนายกรัฐมนตรีที่อายุน้อยที่สุดของประเทศหลังเข้ารับตำแหน่งสมัยแรกในปี 2562 และสามารถรักษาเก้าอี้ผู้นำไว้ได้หลังจากได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปปี 2565.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายกฯหญิงเดนมาร์กขอโทษ เผลอช็อปปิ้งไม่สวมแมสก์

เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกฯ หญิงของเดนมาร์กต้องกล่าวขอโทษ หลังจากมีประชาชนถ่ายคลิปแฉว่าเธอกำลังช็อปปิ้งโดยไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ทั้งที่รัฐบาลเพิ่งกลับมาบังคับใช้กฎนี้