นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ประกาศชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไปของอินเดีย พร้อมสานต่อตำแหน่งผู้นำสมัยที่ 3 ในรัฐบาลผสม เนื่องจากพรรคของตนไม่ได้รับเสียงข้างมากอย่างถล่มทลายตามเป้าหมาย
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ของอินเดีย กางแขนแสดงความยินดีกับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ที่สำนักงานใหญ่ของพรรคภารติยะ ชนะตา (บีเจพี) ในกรุงนิวเดลี เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน (Photo by Money SHARMA / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันพุธที่ 5 มิถุนายน 2567 กล่าวว่า นเรนทรา โมดี นายกรัฐมนตรีชาตินิยมฮินดูของอินเดีย ประกาศชัยชนะในการเลือกตั้งที่พรรคภารติยะ ชนะตา (บีเจพี) ของเขาคว้าที่นั่งในสภาได้มากที่สุด ทำให้เขาจะได้สานต่อตำแหน่งผู้นำประเทศเป็นสมัยที่ 3
บรรดาผู้เชี่ยวชาญและผลสำรวจเอ็กซิทโพลต่างคาดการณ์ถึงชัยชนะอย่างท่วมท้นของโมดี ซึ่งการรณรงค์หาเสียงของเขาได้ชูนโยบายให้ชาวฮินดูส่วนใหญ่ต้องกังวลกับชุมชนมุสลิมที่มีมากกว่า 200 ล้านคนในประเทศ โดยโมดีมักถูกฝ่ายตรงข้ามทางการเมืองและกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวหาซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ายุยงให้เกิดความแตกแยกทางศาสนาเพื่อจุดประสงค์ในการเลือกตั้ง
แต่เป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่พรรคบีเจพีของโมดีล้มเหลวในการครองเสียงข้างมากแบบพรรคเดียว ตามตัวเลขที่ได้รับการเปิดเผยโดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งหมายความว่าพรรคของเขาจะต้องพึ่งพาคะแนนเสียงจากพรรคอื่นๆมาเป็นพันธมิตรในการร่วมจัดตั้งรัฐบาล
การกลับมาผงาดอีกครั้งของพรรคคองเกรสซึ่งนำโดยราหุล คานธี ผู้นำฝ่ายค้าน เป็นตัวตัดคะแนนชั้นดีต่อชัยชนะของพรรครัฐบาลเดิม โดยครั้งนี้พรรคคองเกรสได้ที่นั่งในสภาในจำนวนเกือบสองเท่าของการเลือกตั้งครั้งก่อน ซึ่งตัวคานธีเองเชื่อว่านี่คือการลงโทษของประชาชนที่มีต่อโมดี
เช่นเดียวกับคะแนนเสียงเลือกตั้งของโมดีในฐานะตัวแทนของพื้นที่เมืองพาราณสีอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวฮินดู ที่เป็นไปในทิศทางถดถอย ถึงแม้เขาจะชนะในเมืองนี้ แต่เขาได้คะแนนเสียงไปเพียง 152,300 เสียง ซึ่งลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเกือบครึ่งล้านเสียงในการเลือกตั้งครั้งก่อน
ตัวเลขของคณะกรรมการการเลือกตั้งจากการนับคะแนนล่าสุดเกือบ 99% เปิดเผยว่า พรรคบีเจพีและพันธมิตรจากพรรคอื่นสามารถคว้าที่นั่งได้อย่างน้อย 291 ที่นั่งจากทั้งหมด 543 ที่นั่งในสภา ซึ่งเพียงพอสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก
แต่ 239 ที่นั่งที่พรรคบีเจพีได้มาในครั้งนี้ ลดลงอย่างมากเมื่อเทียบกับ 303 ที่นั่งที่ได้มาจากการเลือกตั้งครั้งก่อน ขณะที่พรรคองเกรสฝ่ายค้านได้ที่นั่งในครั้งนี้มากถึง 99 ที่นั่ง จากครั้งก่อนที่ได้เพียง 52 ที่นั่ง
อย่างไรก็ตาม โมดีก็ได้ฉลองชัยชนะของเขาอย่างสุดเหวี่ยงที่สำนักงานใหญ่ของพรรคฯในกรุงนิวเดลี แม้หลายฝ่ายจะมองว่าเขาล้มเหลวในการเลือกตั้งครั้งนี้
โมดีเชื่อว่าชาวอินเดียจะยังคงเชื่อมั่นต่อการทำงานของรัฐบาลผสม และให้คำมั่นว่าจะสานต่องานดีๆ ที่ทำในทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อเติมเต็มความปรารถนาของผู้คนต่อไป
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินเดียเปิดเผยว่า ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งครั้งนี้มี 968 ล้านคน และออกมาลงคะแนนเสียงคิดเป็น 66.3% ลดลงเล็กน้อยจาก 67.4% ในการเลือกตั้งครั้งก่อนในปี 2562
นักวิเคราะห์ได้กล่าวโทษจำนวนที่ลดลงดังกล่าวว่าเกิดจากคลื่นความร้อนทั่วภาคเหนือของอินเดีย โดยอุณหภูมิที่สูงกว่า 45 องศาเซลเซียสเป็นอุปสรรคหลักต่อการออกมาใช้สิทธิ์.