เจ้าหน้าที่กาซาเผยมีผู้เสียชีวิต 45 ราย หลังการโจมตีของอิสราเอลทำให้ไฟไหม้เต็นท์ผู้พลัดถิ่น

หน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของฉนวนกาซาระบุว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 45 รายจากการโจมตีของอิสราเอลในชั่วข้ามคืนที่ทำให้เต็นท์ของชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่นในเมืองราฟาห์เกิดไฟลุกไหม้ กลายเป็นชนวนให้เกิดการประณามทั่วโลก

ทหารอิสราเอลกำลังลาดตระเวนระหว่างปฏิบัติการในฉนวนกาซา ท่ามกลางความขัดแย้งที่ดำเนินอย่างไม่รู้จุดจบของอิสราเอลและกลุ่มฮามาส เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม (Photo by Israeli Army / AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า กองทัพอิสราเอลโจมตีทางอากาศระลอกใหม่ใส่เมืองราฟาห์ในฉนวนกาซาเมื่อค่ำวันอาทิตย์ เพื่อตอบโต้การถูกโจมตีด้วยจรวดที่มุ่งเป้ากรุงเทลอาวีฟ

มีรายงานว่าการโจมตีดังกล่าวของอิสราเอลได้คร่าชีวิตเจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มฮามาส 2 ราย และมีพลเรือนที่เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้เต็นท์ของชาวปาเลสไตน์พลัดถิ่น

การโจมตีครั้งใหม่จุดชนวนให้เกิดการประณามอย่างรุนแรงจากอียิปต์, จอร์แดน, คูเวต และกาตาร์ ซึ่งเตือนว่าการกระทำของอิสราเอลอาจขัดขวางขั้นตอนในการรื้อฟื้นข้อตกลงหยุดยิงและการเจรจาปล่อยตัวตัวประกันที่หยุดชะงักในสงครามอันยืดเยื้อตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม

หน่วยงานป้องกันภัยฝ่ายพลเรือนของฉนวนกาซาระบุเมื่อวันจันทร์ว่า พบศพจำนวนมากในสภาพไหม้เกรียม เนื่องจากการโจมตีของอิสราเอลได้จุดชนวนให้เกิดเพลิงไหม้เต็นท์ในศูนย์ผู้พลัดถิ่นทางตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองราฟาห์

"การสังหารหมู่ที่กระทำโดยกองทัพอิสราเอลในเต็นท์ผู้ลี้ภัยเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 45 รายและบาดเจ็บอีก 65 คน" หน่วยงานฯกล่าว

คลิปวิดีโอที่เผยแพร่โดยสมาคมเสี้ยววงเดือนแดงปาเลสไตน์ แสดงให้เห็นสถานที่เกิดเหตุโกลาหลในช่วงกลางคืน ที่มีหน่วยกู้ภัยวิ่งไปยังจุดที่ไฟลุกไหม้เพื่ออพยพผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงเด็กๆ ด้วย

ขณะที่ภาพถ่ายของเอเอฟพีหลังเกิดเหตุเผยให้เห็นซากเต็นท์และยานพาหนะที่ไหม้เกรียม ในขณะที่ครอบครัวชาวปาเลสไตน์มองดูความสูญเสียอย่างเศร้าสร้อย

กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า เครื่องบินของตนได้โจมตีกลุ่มฮามาสในราฟาห์ พร้อมสังหารยัสซิน ราเบีย และคาเลด นาการ์ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อาวุโสของกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ และเสริมว่าได้รับรายงานระบุผลการโจมตีที่ทำให้พลเรือนหลายรายในพื้นที่ได้รับอันตรายแล้ว โดยเหตุการณ์ดังกล่าวอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

อียิปต์แสดงความสลดใจต่อความสูญเสียของพลเรือนผู้พลัดถิ่นในฉนวนกาซา พร้อมตำหนิอิสราเอลว่าบกพร่องในการปกป้องพลเรือน และเชื่อว่านี่อาจเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่มุ่งขยายขอบเขตของการเสียชีวิตและการทำลายล้างในฉนวนกาซาเพื่อทำให้ไม่สามารถอยู่อาศัยได้

จอร์แดนออกแถลงการณ์ประณามเช่นกัน โดยกล่าวหาว่าอิสราเอลกำลังก่ออาชญากรรมสงครามอย่างไม่สิ้นสุด

คูเวตชี้ว่าการโจมตีครั้งนี้เผยให้ทั่วโลกเห็นอาชญากรรมสงครามที่โจ่งแจ้งและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนที่กระทำโดยอิสราเอล

ขณะที่กาตาร์ประณามการโจมตีพลเรือนดังกล่าวของอิสราเอลว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง

ก่อนหน้าการโจมตีของอิสราเอลไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มฮามาสได้ยิงจรวดใส่กรุงเทลอาวีฟและพื้นที่อื่นๆ ในภาคกลางของอิสราเอล ส่งผลให้ผู้คนแตกกระเจิงและวิ่งหนีไปยังศูนย์หลบภัย

แม้ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลสามารถสกัดกั้นจรวดได้เกือบทั้งหมดและไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต แต่กลุ่มฮามาสมองว่าการโจมตีดังกล่าวถือว่าสำเร็จแล้ว เพราะต้องการแสดงให้รู้ว่ากลุ่มฯยังไม่ยอมจำนนน

ทั้งนี้ อิสราเอลบุกฉนวนกาซาตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม แต่กองกำลังภาคพื้นดินยังคงต่อสู้กับกลุ่มฮามาสในพื้นที่ตอนเหนือและตอนกลาง เช่นเดียวกับรอบๆ ราฟาห์ โดยยังไม่สามารถจัดการให้สิ้นซากได้ตามที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูเคยลั่นวาจาไว้

สหรัฐฯ เรียกร้องอย่างแข็งขันให้ทุกฝ่ายกลับมาเจรจาสงบศึกอีกครั้ง โดยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีความพยายามในการเจรจาครั้งใหม่กับผู้ไกล่เกลี่ยอย่างสหรัฐฯ, อียิปต์ และกาตาร์

หลังเหตุการณ์ความรุนแรงครั้งล่าสุด กระทรวงต่างประเทศกาตาร์แสดงความกังวลว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลจะทำให้ความพยายามไกล่เกลี่ยที่กำลังดำเนินอยู่ยุ่งยากขึ้น รวมทั้งขัดขวางการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทันทีและถาวร

ล่าสุด นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล ออกมายอมรับแล้วว่า การที่พลเรือนปาเลสไตน์ถูกโจมตีในครั้งนี้ เกิดจากความผิดพลาด ขณะที่กลุ่มฮามาสเริ่มปลุกเร้าให้ชาวปาเลสไตน์ลุกขึ้นสู้เพื่อต่อต้านทหารอิสราเอล.