ไ่ล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีคนใหม่ หวังนำไต้หวันก้าวสู่ยุคประชาธิปไตยของเกาะแห่งนี้ พร้อมเรียกร้องจีนให้ยุติการข่มขู่ทางการเมืองและการทหาร
ประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ ของไต้หวัน (ซ้าย) และรองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉิน โบกมือให้ประชาชนหลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงไทเป เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม (Photo by Sam YEH / AFP)
เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า ไล่ ชิงเต๋อ เข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่อย่างเป็นทางการ พร้อมประกาศสานต่อความเป็นประชาธิปไตยเหนือการอ้างสิทธิ์ของจีน
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งจัดขึ้นที่ทำเนียบประธานาธิบดีสมัยอาณานิคมญี่ปุ่นในกรุงไทเป โดยมีรองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉินสาบานตนเข้ารับตำแหน่งด้วย
ในพิธีดังกล่าวมีอาคันตุกะกิตติมศักดิ์เป็นประมุขแห่งรัฐ 8 คนและตัวแทนจากคณะผู้แทนระหว่างประเทศ 51 คณะเข้าร่วมในพิธีนี้ รวมทั้งผู้แทนจากสหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น และแคนาดา
มีการแสดงโอเปร่าและการเต้นรำแบบดั้งเดิมในการเฉลิมฉลอง ซึ่งรวมถึงการแสดงทางอากาศของกองทัพอากาศเพื่อเทิดเกียรติต่อประธานาธิบดีคนใหม่
ในพิธีกล่าวสุนทรพจน์ ไล่ ชิงเต๋อพูดถึงภัยคุกคามของสงครามโดยตรงหลังจากจีนกดดันมากขึ้นเรื่อยๆในช่วงหลัง ให้นำไต้หวันไปอยู่ภายใต้การปกครองของแผ่นดินใหญ่
ไล่กล่าวว่า "ยุคอันรุ่งโรจน์ของระบอบประชาธิปไตยไต้หวันมาถึงแล้ว ขอบคุณประชาชนที่ปฏิเสธการถูกอิทธิพลภายนอกครอบงำ และร่วมปกป้องประชาธิปไตยอย่างเด็ดเดี่ยว"
"เมื่อเผชิญกับภัยคุกคามและความพยายามแทรกซึมมากมาย เราต้องแสดงให้เห็นถึงปณิธานของเราในการปกป้องดินแดน และเรายังต้องสร้างความตระหนักรู้ด้านกลาโหมและเสริมสร้างกรอบทางกฎหมายเพื่อความมั่นคงของชาติ" ประธานาธิบดีไต้หวันคนใหม่กล่าว
ไล่ ชิงเต๋อซึ่งเป็นผู้พิทักษ์อธิปไตยของไต้หวันอย่างแข็งขัน ได้รับการขนานนามจากรัฐบาลปักกิ่งว่าเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนที่เป็นอันตราย จากการแสดงความคิดเห็นในอดีตของเขาเกี่ยวกับเอกราชของไต้หวัน
ไล่ ชิงเต๋อให้คำมั่นว่ารัฐบาลของเขาจะไม่ยอมถูกยั่วยุ และจะดำรงเอกราชแบบที่เป็นอยู่ด้วยการรักษาสมดุลอธิปไตย แม้ไม่อาจประกาศเอกราชอย่างเป็นทางการได้ก็ตาม
นอกจากนี้ เขายังเรียกร้องให้จีนยุติการข่มขู่ทางการเมืองและการทหารต่อไต้หวัน
"รัฐบาลปักกิ่งควรแบ่งปันความรับผิดชอบในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันร่วมกับรัฐบาลไทเป หากทำเช่นนั้นได้จะเป็นการรับประกันว่าสงครามคงไม่เกิดอย่างที่หวาดหวั่นกันทุกวันนี้" ไล่ ชิงเต๋อกล่าว
คาดว่ารัฐบาลไทเปจะเพิ่มงบประมาณใช้จ่ายด้านกลาโหมและมีการกระชับความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกามากขึ้นในช่วงการดำรงตำแหน่ง 4 ปีของไล่ ชิงเต๋อ เพื่อขัดขวางจีนจากการยึดเกาะแห่งนี้
ทั้งนี้ จีนถือว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน และขู่มานานแล้วว่าจะใช้กำลังเพื่อยึดเกาะนี้ให้อยู่ภายใต้การควบคุมของแผ่นดินใหญ่
อย่างไรก็ตาม การเมืองในประเทศจะเป็นปัญหาหนึ่งให้ไล่ ชิงเต๋อต้องเผชิญกับความท้าทายอีกครั้งหลังจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ของเขาสูญเสียเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติในการเลือกตั้งเดือนมกราคม ซึ่งหมายความว่าเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะผลักดันนโยบายรัฐบาล
ขณะที่เขาเข้ารับตำแหน่งในวันจันทร์ สื่อของจีนรายงานว่า รัฐบาลปักกิ่งได้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อบริษัทด้านกลาโหมของสหรัฐฯ 3 แห่งจากการขายอาวุธให้รัฐบาลไทเป
แม้ว่ารัฐบาลวอชิงตันได้เปลี่ยนการยอมรับทางการทูตจากไต้หวันมาเป็นจีนในปี 1979 แต่สหรัฐก็ยังคงเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของไต้หวันและเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ที่สุด
ไต้หวันมีรัฐบาล, ทหาร และสกุลเงินเป็นของตนเอง และประชากรส่วนใหญ่ 23 ล้านคนมองว่าตนเองมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของชาวไต้หวันที่แยกจากชาวจีน.
