เวียดนามเสนอชื่อรัฐมนตรีกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป เป็นประธานาธิบดีคนใหม่

พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้เสนอชื่อรัฐมนตรีกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปให้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ ทดแทนประธานาธิบดีคนก่อนที่ลาออกจากเหตุกวาดล้างการรับสินบนที่กัดกินไปทุกวงการ

โตเลิม รัฐมนตรีกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม (Photo by AFP)

เอเอฟพีรายงาน เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2567 กล่าวว่า พลตำรวจเอกโตเลิม รัฐมนตรีกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไปได้รับการเสนอชื่อจากพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามให้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศ

สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่า "คณะกรรมการกลางของพรรคฯตกลงที่จะเสนอชื่อสหายโตเลิม ซึ่งเป็นสมาชิกกรมการเมืองและรัฐมนตรีกระทรวงรักษาความมั่นคงทั่วไป ให้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดี"

โตเลิมวัย 66 ปี เป็นรัฐมนตรีกระทรวงดังกล่าวมาตั้งแต่ปี 2559 และเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหน่วยงานสิทธิมนุษยชนเวียดนามมาตลอด โดยกลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เพิ่มการปราบปรามกลุ่มประชาสังคมจำนวนมาก

โตเลิมใช้เวลาตลอดอาชีพการทำงานในกระทรวงความมั่นคงซึ่งเกี่ยวข้องกับการติดตามดูความขัดแย้งและการสอดแนมนักเคลื่อนไหวในประเทศ และทำหน้าที่เป็นรองหัวหน้าคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตอีกด้วย

เขายังเป็นหัวหน้าคณะกรรมการกำกับดูแลพื้นที่ราบสูงตอนกลาง ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความอ่อนไหวสูงต่อประเด็นต่างๆ รวมถึงสิทธิในที่ดินและเป็นที่ตั้งของชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์หลายกลุ่ม

ปัจจุบันเวียดนามกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งใหญ่ โดยประธานาธิบดีคนก่อนหน้า (โว วาน เทือง) ถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งในเดือนมีนาคม หลังจากดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีได้เพียงหนึ่งปี และกลายเป็นผู้นำที่มีชื่อเสียงคนล่าสุดที่ตกเป็นเหยื่อของการขับเคลื่อนต่อต้านการทุจริตซึ่งทำให้รัฐมนตรีหลายคนถูกปลดออกก่อนหน้านี้

ที่ผ่านมา ผู้คนหลายพันคน รวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูงและผู้นำธุรกิจ ถูกจับได้ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับสินบนที่กำลังกัดกินประเทศ

นอกจากนี้ เจิ่น แทง เหมิน รองประธานสภาแห่งชาติเวียดนามวัย 61 ปี ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานสภาแห่งชาติเวียดนามคนใหม่เช่นกัน โดยจะเข้ามารับช่วงต่อจากเวือง ดิ่ง-เหวะ ประธานสภาฯคนก่อนที่ประกาศลาออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนที่แล้วเนื่องจากกระทำการฝ่าฝืนกฏหมายและบกพร่องต่อหน้าที่

ทั้งนี้การเสนอชื่อทั้งหมดได้รับการยอมรับจากคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม แต่รัฐสภาจะต้องจัดการประชุมเพื่อยืนยันอย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 20 พฤษภาคม ตามกำหนดการเปิดประชุมสภาที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้

การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้ถือเป็นเรื่องปกติในเวียดนาม ซึ่งใช้เวลาหลายปีในการจัดการการเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้งอย่างรอบคอบเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้การขับเคลื่อนการต่อต้านการทุจริตจะได้รับความนิยมจากสาธารณชน แต่นักวิเคราะห์เตือนว่าความวุ่นวายนี้อาจคุกคามชื่อเสียงของประเทศในด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจการผลิตที่ขับเคลื่อนด้วยการส่งออกที่ประสบความสำเร็จมากในระยะหลัง

เช่นเดียวกัน บุคคลสำคัญทางธุรกิจก็เพิ่งถูกกวาดล้างครั้งใหญ่ โดยเฉพาะในรายของเจือง มี ลัน นักธุรกิจหญิงและประธานบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของเวียดนาม ที่ถูกศาลพิพากษาประหารชีวิตจากคดีคอร์รัปชันครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ประเทศ ด้วยค่าเสียหายราว 27,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 9.88 แสนล้านบาท).

เพิ่มเพื่อน